สำหรับปีนี้ได้กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงในฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ในห้วงเวลาและพื้นที่ดังนี้
16 พ.ค.-15 ส.ค. ในพื้นที่ 33 จังหวัด เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, ลำพูน, อุตรดิตถ์, ตาก, กำแพงเพชร, พิษณุโลก, สุโขทัย, พิจิตร, เลย, อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม, สกลนคร, กาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล
1 มิ.ย.-31 ส.ค. ในพื้นที่ 39 จังหวัด หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ร้อยเอ็ด, มุกดาหาร, ยโสธร, อำนาจเจริญ, อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์, เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, ชัยนาท, อุทัยธานี, สิงห์บุรี, ลพบุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, สุพรรณบุรี, สระบุรี, นครปฐม, นนทบุรี, กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
1 ก.ย.-30 พ.ย. ในพื้นที่ 5 จังหวัด พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, นราธิวาส และยะลา
แต่ได้ยกเว้นวิธีทำการประมงบางประเภทให้สามารถทำได้ในฤดูน้ำแดง 1.เบ็ดทุกชนิด ยกเว้นเบ็ดราว เบ็ดพวงที่ทำการประมงโดยวิธีการ กระชาก หรือการใช้เครื่องมืออื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
2.ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ หรือชนาง มีขนาดปากกว้างไม่เกิน 2 เมตร และไม่ทำการประมงด้วยวิธีประดาตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป…3.สุ่ม ฉมวก และส้อม…4.ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน…5.แหที่มีความลึกไม่เกิน 6 ศอก (3 เมตร)
6.การทำการประมงเพื่อการศึกษา วิจัย ทดลองทางวิชาการ หรือในพื้นที่โครงการที่ดำเนินการของทางราชการ ต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมประมง
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนตามประกาศฯ มาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษปรับตั้งแต่ห้าพันถึงห้าหมื่นบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมง.
สะ-เล-เต