ศบค.เผยยอดติดเชื้อโควิดไทยอยู่ระดับ 2 หมื่นราย พบ 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด ติดเชื้อลดลงเหลือระดับ 400 ขึ้นไป ส่วนอีก15 จังหวัดติดเชื้อระดับมากกว่า 300 ราย ส่วนติดเชื้อต่ำร้อยมี 19 จังหวัด “ลำพูน” น้อยสุด 1 ราย ดับยังนิวไฮ 119 ราย พบ 2 ขวบเสียชีวิตด้วย
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,289 ราย สะสม 3,993,292 ราย หายป่วย 24,969 ราย สะสม 3,741,758 ราย เสียชีวิต 119 ราย สะสม 26,629 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 224,905 ราย อยู่ใน รพ. 60,720 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 164,185 ราย มีอาการหนัก 2,024 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 872 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 28.1%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 119 ราย มาจาก 45 จังหวัด กทม.เสียชีวิตสูงสุด 12 ราย ตามด้วยนครศรีธรรมราช 6 ราย นครราชสีมา อุบลราชธานี ชลบุรี จังหวัดละ 5 ราย สมุทรปราการ ปทุมธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สุโขทัย กาญจนบุรี จังหวัดละ 4 ราย ที่เหลือเสียชีวิตจังหวัดละ 1-3 ราย โดยภาคกลางและตะวันออก เสียชีวิตสูงสุด 31 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 28 ราย ภาคเหนือ 20 ราย ภาคใต้ 17 ราย และปริมณฑล 11 ราย เป็นชาย 70 ราย หญิง 49 ราย อายุ 2 – 99 ปี เฉลี่ย 74 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 97%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 3,110 ราย 2.ชลบุรี 736 ราย 3.นครศรีธรรมราช 726 ราย 4.สมุทรปราการ 658 ราย 5.นครปฐม 630 ราย 6.นนทบุรี 622 ราย 7.ร้อยเอ็ด 562 ราย 8.นครราชสีมา 511 ราย 9.บุรีรัมย์ 483 ราย และ 10.ขอนแก่น 466 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อเกิน 300 ราย มี 15 จังหวัด คือ กาญจนบุรี 397 ราย , สงขลา 388 ราย , เลย 378 ราย , ศรีสะเกษ 373 ราย , ฉะเชิงเทรา 348 ราย , สมุทรสาคร 342 ราย , สุรินทร์ 341 ราย , ราชบุรี 328 ราย , อุดรธานี 325 ราย , อุบลราชธานี 323 ราย , เชียงใหม่ 312 ราย , ระยอง 312 ราย , หนองคาย 309 ราย , พัทลุง 304 ราย และสกลนคร 303 ราย
ขณะที่จังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 19 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม 92 ราย , นครนายก 87 ราย , พังงา 78 ราย , ตรัง 76 ราย , กระบี่ 75 ราย , ระนอง 71 ราย , ชุมพร 70 ราย , ตูล 65 ราย , พิจิตร 64 ราย , ตาก 47 ราย , ยะลา 33 ราย , ปัตตานี 30 ราย , แม่ฮ่องสอน 29 ราย , นราธิวาส 27 ราย , พะเยา 23 ราย , อุตรดิตถ์ 19 ราย , ชัยนาท 18 ราย , เชียงราย 7 ราย และลำพูน 1 ราย
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 42 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 68 ราย ใน 22 ประเทศ โดยมาจากซาอุดิอาระเบียมากที่สุด 13 ราย กัมพูชา 9 ราย ออสเตรเลีย 6 ราย อังกฤษ มาเลเซีย ประเทศละ 5 ราย สิงคโปร์ 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 50 ราย แซนด์บ็อกซ์ 6 ราย กักตัว 6 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 6 ราย จากกัมพูชา 3 ราย เมียนมา 3 ราย สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-14 เม.ย. 2565 มีผู้เดินทาง 191,858 คน รายงานติดเชื้อ 895 คน คิดเป็น 0.47% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 180,399 คน ติดเชื้อ 759 คน คิดเป็น 0.42% แซนด์บ็อกซ์ 9,547 คน ติดเชื้อ 93 คน คิดเป็น 0.97% และกักตัว 1,912 คน ติดเชื้อ 43 คน คิดเป็น 2.25%
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2565 จำนวน 26,928 โดส สะสม 131,631,366 โดส เป็นเข็มแรก 55,998,381 ราย คิดเป็น 80.5% เข็มสอง 50,667,986 ราย คิดเป็น 72.8% และเข็ม 3 ขึ้นไป 24,964,999 ราย คิดเป็น 35.9%