ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 1,200 ชุด
จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร และเส้นทางคมนาคม และเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่
(7 มี.ค.65) ที่กองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โปรดให้นายบัญชา เตชะสกุล รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ เชิญสิ่งของพระราชทาน พร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ จำนวน 1,200 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส โดยมีนายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายณัฐกฤช สิทธิโอสถ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งมอบสิ่งของยังชีพพระราชทาน ให้แก่ผู้แทนแต่ละจังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดยะลา จำนวน 300 ชุด จังหวัดปัตตานี จำนวน 300 ชุด และจังหวัดนราธิวาส จำนวน 600 ชุด นำไปส่งต่อให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ตลอดจนเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย
.โอกาสนี้ รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ได้เชิญพระกระแสทรงห่วงใยของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ไปกล่าวแก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยให้ได้รับทราบต่อไป ยังความปลื้มปีติแก่ราษฎร และสำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ระหว่างวันที่ 25 ก.พ. – 4 มี.ค. 2565 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจนได้รับความเสียหาย โดยจังหวัดยะลา มีพื้นที่ประสบภัย 7 อำเภอ 49 ตำบล 235 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 8,420 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 10,564 ไร่ บ่อปลา 198 บ่อ ถนน 21 สาย โรงเรียน 19 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่ประสบภัย 12 อำเภอ 82 ตำบล 351 หมู่บ้าน ราษฎรได้ รับผลกระทบ 15,458 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 8,655 ไร่ ถนน 21 สาย โรงเรียน 19 แห่ง มัสยิด 1 แห่ง ปัจจุบัน ไม่มีฝนตกในพื้นที่ ระดับน้ำลดลงตามลำดับ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำริแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรี จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ประสบภัย 13 อำเภอ 69 ตำบล 491 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 40,971 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 6,925 ไร่ บ่อปลา/กุ้ง 110 ไร่ ถนน 47 สาย สะพาน 5 แห่ง ดินสไลด์ทับเส้นทาง 1 แห่ง มัสยิด 22 แห่ง โรงเรียน 15 แห่งและสถานที่ราชการ 14 แห่ง
ณิชารีย์ หนูบุญ/ข่าว/ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา