เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
โดย… ดร.อลิสา หะสาเมาะ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี
“ไอ้หนุ่มตังเกร่อนเร่หาปลา ล่องลอยนาวา เห็นน้ำกับฟ้าเป็นเพื่อน
…ลากอวนจับปลา กลางทะเล นอนบนตังเก แรมเดือน ผิวคล้ำดำเปื้อนคาวปลา
…หุ่นก็ไม่งามลุ่มล่ามเหลือเกิน สาวแลก็เมิน เคอะเขินไม่หันมองหน้า…”
นี่คือบทเพลงที่ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ร้องอวดชาวบ้านและทีมงานตลอดเส้นทางการเยี่ยมเยียนชุมชนชาวประมงพื้นบ้านในอ่าวปัตตานี ซึ่งทริปนี้ผู้เขียนได้ร่วมเดินทางไปด้วยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
พอร้องจบชาวบ้านปรบมือโห่ร้องดีใจ เพราะจะมีแม่ทัพภาค 4 สักกี่คนกันเชียวที่ลงมาปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีบุคลิกเป็นกันเอง ไม่ถือเนื้อถือตัว อยู่ท่านกลางวงล้อมของชุมชน เดินคุยกับทุกคนโดยเฉพาะชาวบ้านประมงพื้นบ้านขนาดเล็กที่แล่นเรือมาต้อนรับกว่า 20 ลำ
แม่ทัพภาคที่ 4 มารับฟังชาวบ้านที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการเกิดขึ้นของ “สันดอนทราย” อันเป็นผลจากโครงการขุดลอกอ่าวปัตตานี ซึ่งทำให้กระแสน้ำขึ้นน้ำลงเปลี่ยนแปลงจาก 5 ชั่วโมงต่อวัน เวลานี้เหลือเพียง 3 ชั่วโมงต่อวัน
พล.ท.เกรียงไกรเดินเข้าไปดูสัตว์น้ำที่ชาวบ้านจับได้ และอวดฝีมือการจับปูและมัดปูอย่างเชี่ยวชาญและชำนาญ พร้อมทั้งบอกกับชาวบ้านว่า “ผมลูกทะเล นี่เวลาจับปูต้องจับปูต้องทำแบบนี้ เวลามัดปูต้องทำแบบนี้” และก่อนลงเรือไปพบกับชาวบ้านยังโม้ว่า “เดี๋ยวผมจะขับเรือให้สาวๆ นั่ง”
คณะเราต้องการพาคณะของแม่ทัพภาคที่ 4 แล่นเรือไปดูสันดอนทรายที่โผล่กลางน้ำ ซึ่งสิ่งนั้นคือต้นต่อของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นและสร้างผลกระทบกับชาวบ้านประมงพื้นบ้านหลายครัวเรือน เพราะสันดอยทรายจำนวนมากได้ถมทับทำให้สัตว์น้ำมีจำนวนลดลง อีกทั้งสัตว์น้ำบางประเภทได้หายสาบสูญไปจากอ่าวปัตตานีแล้วด้วย เช่น ปลาดุกทะเล เป็นต้น
พอถึงท่าเรือแม่ทัพภาคที่ 4 เลือกเรือพื้นบ้านขนาดเล็ก พร้อมเรียกหา “พี่ม้าย” หรือพี่ลม้าย มานะการ หนึ่งในคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ให้ลงนั่งเรือลำเดียวกัน ซึ่งภายหลังพี่ม้ายแอบกระซิบให้ฟังว่า ตอนนั่งเรือไปด้วยกันพี่เกร็งน่าดู เรียกเสียงหัวเราะจากพวกเราและชาวบ้านได้
ด้วยความทะมัดทะแมงและประสบการณ์ความเป็นลูกทะเลตัวจริง ท่าทางขับเรือของนายทหารขวัญใจชาวบ้านจึงดูแล่นฉิวบนยอดคลื่นได้อย่างสบาย สาตาสอดส่ายดูร่องน้ำ และสามารถพาสมาชิกที่นั่งเรือลำเดียวกันถึงจุดนัดหมายบนสันดอนทรายใหญ่กลางอ่าวปัตตานีได้อย่างไม่มีอะไรสะดุด
“นี่ถ้าผมไม่เกรงใจ ผมจะใช้เท้าขับเรือแล้วนะเนี่ย” พล.ท.เกรียงไกรพูดคุยกลับชาวบ้านบนโต๊ะอาหาร ซึ่งวิธีการดำกล่าวถือการแสดงความเชี่ยวชาญและชำนาญอย่างมากของบรรดาลูกทะเล
สำหรับทริปการเดินทางร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 4 ลงลุยพื้นที่อ่าวปัตตานีครั้งนี้ ช่วงเช้าก่อนเดินทางมีการบรรยายสรุปปัญหาสันดอนทราย ณ บ้านหะยีสุหลง โต๊ะมีนา โดยคณะทำงานที่จับประเด็นปัญหาของสันดอนทรายในอ่าวปัตตานีมาตั้งแต่ต้นประกอบด้วย แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย นายจตุรงค์ เอี่ยมโสภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ปัตตานี และยังเป็นเจ้าบ้านให้การต้อนรับ นายบัณฑิต อับดุลบุตร ผู้ช่วย ส.ส.เพชรดาว ผู้นำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมาธิการของสภาฯ กับนายอัลอามีน มะแต ชาวบ้านบูดี แหลมโพธิ์ และ นายสะมะแอ สาและ ประธานชมรมประมงพื้นบ้าน
ในวงสนทนา พล.ท.เกรียงไกรร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ว่า ตนเองเป็นลูกทะเล อยู่กับทะเล จึงเข้าใจดีถึงวิถีชีวิตและความลำบากของชาวประมงเป็นอย่างไร การเดินทางมาเยี่ยมชาวประมงพื้นบ้านอ่าวปัตตานีครั้งนี้ถือว่าเป็นการเดินทางมาอย่างไม่เป็นทางการ จริงๆ แล้วตนอยากใส่กางเกงบอลมาด้วยซ้ำ
แต่เนื่องจากตำแหน่งหน้าที่การงาน อีกทั้งถึงแม้ว่าจะมาอย่างไม่เป็นทางการ แต่ก็มีทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี อธิบดี ปลัด พร้อมชุดรักษาความปลอดภัยจำนวนกว่า 40 นายใส่ชุดข้าราชการเต็มยศต่างก็มาต้อนรับ มีการปิดกั้นถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและอารักขาความปลอดภัยเสียใหญ่โต ตนจึงเกิดความเกรงใจ
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่เยี่ยมชาวประมงพื้นบ้านและรับทราบปัญหาสันดอนทรายในครั้งนี้ พล.ท.เกรียงไกรได้รับเทียบเชิญจากการประสานของพี่ลม้าย มานะการ เพื่อให้ได้มาดูสถานการณ์ด้วยตาของตนเอง และการที่พี่ลม้ายทำงานในพื้นที่รอบอ่าวปัตตานีด้านการอนุรักษ์มาอย่างยาวนาน จึงรู้จักสภาพปัญหาของชุมชน ความซับซ้อน ที่สำคัญเข้าใจผลกระทบจากการขุดลอกสันดอนทรายในอ่าวปัตตานีเป็นอย่างไร นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ยินดีและเต็มใจเดินทางมาโดยไม่ขัดข้องในฐานะที่เป็นลูกทะเลด้วยเหมือนกัน
ก่อนเดินทางกลับ พล.ท.เกรียงไกรยังเอ่ยปากว่า ปัญหาสันดอนทรายจะต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง และหลังจากนี้ไปหากในพื้นที่หรือคณะทำงานต้องการขับเคลื่อนอย่างไร ตนก็ยินดีที่จะสนับสนุน จึงต้องนับว่าเป็นอีกครั้งที่ชาวบ้านรู้สึกว่าปัญหาของตัวเองถูกมองเห็นและน่าจะได้รับการแก้ไขในไม่ช้า
อนึ่ง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งอื่น: spmcnews. (2564). แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจอ่าวปัตตานี พบปะหารือส่วนที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาสันดอนทรายอ่าวปัตตานี. สืบค้นจากhttps://www.facebook.com/1377884235581891/posts/4399525693417715/?sfnsn=mo



