วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2025

ไฟใต้: บีอาร์เอ็นแถลงการณ์ 1 ปีพูดคุยสันติสุขฯ มาราปาตานียัน “ยังเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ”

  • กุลธิดา สามะพุทธิ
  • ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย

กองเลขาธิการการเจรจาของบีอาร์เอ็นอ่านแถลงการณ์ทางยูทิวบ์

ที่มาของภาพ, YouTube/Diaspora Patani

คำบรรยายภาพ,

กองเลขาธิการการเจรจาของบีอาร์เอ็นอ่านแถลงการณ์ทางยูทิวบ์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ก.พ.

เดือน ก.พ. 2564 มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานีหรือบีอาร์เอ็น กลุ่มมาราปาตานี รวมทั้งคณะเจรจาของทางการไทย เกี่ยวกับกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ที่หยุดชะงักไปเกือบปีตั้งแต่ต้นปีที่แล้วเพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งนักวิชาการที่ติดตามการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมองว่ากระบวนการพูดคุยฯ กำลังเป็นไปในทิศทางบวก

คืนวันที่ 15 ก.พ. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองเลขาธิการการเจรจาของบีอาร์เอ็น (Barisan Revolusi Nasional – BRN) เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาวกว่า 8 นาทีทางยูทิวบ์ซึ่งเป็นแถลงการณ์ในโอกาสครบรอบ 1 ปีของกระบวนการพูดคุยสันติสุขระหว่างบีอาร์เอ็นกับรัฐบาลไทย ชี้แจงท่าทีและความคืบหน้าการเจรจาในช่วงที่ผ่านมา แสดงความพร้อมที่จะเข้าร่วมการพูดคุยอย่างเป็นทางการในครั้งต่อไป และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสนับสนุนการเจรจานี้เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่

ฮารา ชินทาโร นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามลายูได้แปลเนื้อหาแถลงการณ์บีอาร์เอ็นเป็นภาษาไทย ดังนี้

1.ขอขอบคุณรัฐบาลมาเลเซียอย่างสูงในการอำนวยความสะดวกให้แก่การเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานีกับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะตัน สรี อับดุล ราฮิม บิน โมฮัมหมัด นูร์ที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก ทุ่มเทและทำงานหนักเพื่อให้กระบวนการสันติภาพครั้งนี้ดำเนินด้วยดีและประสบความสำเร็จ บีอาร์เอ็นขอขอบคุณรัฐบาลไทยด้วย โดยเฉพาะคณะเจรจาที่นำโดย พล.อ. วัลลภ รักเสนาะ และขอกล่าวคำขอบคุณต่อบรรดาผู้เชี่ยวชาญนานาชาติที่มีส่วนร่วมในการเจรจาระหว่างบีอาร์เอ็นกับรัฐบาลไทยตลอดมา และขอขอบคุณอย่างสูงต่อสมาชิกของสังคมปาตานีที่ให้การสนับสนุนกับการเจรจาครั้งนี้ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

2. การเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างบีอาร์เอ็นกับรัฐบาลไทย ได้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2020 และมีการประชุมครั้งที่สองเมื่อวันที่ 2-3 มี.ค. 2020 ที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย แต่หลังจากนั้นการประชุมแบบพบหน้ากันต้องเลื่อนไปเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 มีการปิดชายแดนของประเทศต่าง ๆ ถึงแม้ว่าฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกพยายามจัดการประชุมครั้งที่สาม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ที่มาของภาพ, Khairul Azam Sahmad

คำบรรยายภาพ,

พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะไทย (ซ้าย) จับมือกับ ตัน สรี อับดุล ราฮิม บิน โมฮัมหมัด นูร์ (กลาง) ผู้อำนวยความสะดวกจากมาเลเซีย และ นายอนัส อับดุลเราะห์มาน เป็นหัวหน้าคณะบีอาร์เอ็น (ขวา)

3. ถึงแม้ว่าการประชุมแบบปกติไม่สามารถดำเนินได้ แต่บีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทยมีความทุ่มเทในการเจรจา ทั้งสองฝ่ายจึงส่งข้อความและจดหมายกันโดยมีกองเลขาธิการผู้อำนวยความสะดวกเป็นคนกลาง และได้แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญ เช่น การรับฟังความเห็นของประชาชน และความคุ้มกันทางกฎหมาย (immunity) สำหรับตัวแทนของบีอาร์เอ็น

4. เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2020 บีอาร์เอ็นได้ประกาศการยุติปฏิบัติการทั้งหมดเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อกระบวนการเจรจาสันติภาพ และยังเป็นการตอบรับต่อคำร้องขอจากเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส ที่เรียกร้องการหยุดยิงทั่วโลกเพื่อทุมเทพลังต่อต้านโลกโควิด-19 และให้ช่องทางแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานสาธารณสุขที่ทำงานในพื้นที่เพื่อป้องกันและควบคุมโควิด-19

5. เมื่อต้นปี 2021 บีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทยเห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้อำนวยความสะดวกเพื่อดำเนินการพูดคุยต่อในระดับทีมเทคนิคทางออนไลน์ และได้จัดการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกลเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาเรื่องเตรียมการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนประเด็นต่าง ๆ เช่น

  • การแก้ไขความขัดแย้งที่ปาตานีโดยวิธีการทางการเมืองหรือการบริหารการปกครองที่สอดคล้องกับความใฝฝันของประชาชนปาตานี
  • การลดปฏิบัติการทางการทหาร
  • การมีส่วนร่วมขององค์กรภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ บุคคลสำคัญทางด้านศาสนา การเมือง และสังคมในการเจรจา อย่างสอดคล้องกับแนวคิดการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย (inclusivity) ที่ได้ตกลงกันก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อให้มีการพูดคุยอย่างสมบูรณ์แบบ ฝ่ายกองเลขาธิการผู้อำนวยความสะดวกจะจัดการประชุมระดับทีมเทคนิคครั้งที่สองในเวลาอีกไม่นาน

ทั้งหมดนี้เป็นประเด็นที่พวกเราต้องการสื่อสารโดยสังเขป ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ ใส่ใจ และให้การสนับสนุนเพื่อให้กระบวนการเจรจาครั้งนี้สามารถแก้ไขความขัดแย้งที่ปาตานีได้อย่างมีศักดิ์ศรีต่อทุกฝ่าย โดยมีแนวทางแก้ไขอย่างสันติ ครอบคลุม ที่สามารถให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริงและรักษาศักดิ์ศรีของชาวปาตานี

ที่มาของภาพ, MADAREE TOHLALA

คำบรรยายภาพ,

เจ้าหน้าที่ยืนคุ้มกันที่เกิดเหตุหลังมือปืนยิงทหารเกษียณอายุราชการเสียชีวิตใน จ. นราธิวาส เมื่อ ต.ค. 2563 แม้เหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้น แต่ก็มีแนวโน้มลดลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้

แถลงการณ์วันที่ 15 ก.พ. ของบีอาร์เอ็นมีขึ้น 2 สัปดาห์หลังจากการหารือระหว่างผู้แทนคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกับบีอาร์เอ็นเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะพูดคุยฯ ที่มี พล.อ. วัลลภ รักเสนาะเป็นประธาน ได้เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงสารัตถะสำหรับการพูดคุยครั้งต่อไปซึ่งได้แก่ การลดความรุนแรง และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

“การพูดคุยครั้งนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของทั้งสองฝ่าย เพื่อรักษาความต่อเนื่องของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้…ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องให้มีการปรึกษาหารือร่วมกันผ่านระบบการประชุมทางไกลอย่างสม่ำเสมอ” คณะพูดคุยฯ ระบุ

มาราปาตานี: “เปิดทางให้ไทย-บีอาร์เอ็นคุยกันไปก่อน”

รัฐบาลไทยแทบทุกยุคพยายามเปิดการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวเฉพาะรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในยุคเริ่มต้นเป็นการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับ “มาราปาตานี” องค์กรร่มของฝ่ายขบวนการปลดแอกเอกราชปาตานี

นับตั้งแต่ปี 2558 ทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกันหลายครั้ง แต่การเจรจาก็ไม่มีความคืบหน้ามากนัก พร้อมกับมีการตั้งคำถามว่ามาราปาตานีเป็นตัวแทนที่แท้จริงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต่าง ๆ รวมทั้งบีอาร์เอ็นจริงหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นกองกำลังหลักที่ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นับตั้งแต่ปี 2547 แสดงความประสงค์ที่จะเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลไทยโดยตรง

จนกระทั่งในปี 2562 พล.อ. วัลลภ อดีตเลขา สมช. เปิดเผยหลังจากรับตำแหน่งหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าฝ่ายไทยได้เชิญบีอาร์เอ็นมาเป็นแกนนำในการเจรจา ทำให้การพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้เป็นการพูดคุยระหว่างรัฐบาลไทยและบีอาร์เอ็น การพบปะกันครั้งแรกมีขึ้นมาเลเซียเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563

ที่มาของภาพ, Jonathan Head

คำบรรยายภาพ,

พล.อ. วัลลภ รักเสนาะ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้

ผ่านไปกว่า 1 ปีหลังการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างคณะของ พล.อ.วัลลภกับผู้แทนบีอาร์เอ็นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ประกอบกับแถลงการณ์ล่าสุดของบีอาร์เอ็นที่ออกมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. มาราปาตานีซึ่งเคยเป็นผู้นำในการเจรจากับรัฐบาลไทยมาก่อนมีความเห็นและมีท่าทีต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ระหว่างทางการไทยกับบีอาร์เอ็นอย่างไร

นายอาบูฮาฟิส อัลฮากิม โฆษกมาราปาตานี ให้ความเห็นกับบีบีซีไทยว่าการเจรจายังอยู่ในระยะเริ่มต้น และเขาคิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกนับปีกว่าที่ทางการไทยกับบีอาร์เอ็นจะสร้างความไว้วางใจกันได้มากพอที่หยิบยกประเด็นเนื้อหาสาระสำคัญมาหารือกัน

นายอาบูฮาฟิสกล่าวว่ามาราปาตานีได้ “ผ่านขั้นตอนนี้มาแล้ว” ในช่วงที่เป็นองค์กรนำในการเจรจากับรัฐบาลไทย และยืนยันว่ามาราปาตานียังอยู่ในกระบวนการพูดคุย

เขาเปิดเผยด้วยว่ามาราปาตานีและบีอาร์เอ็น “มีการสื่อสารภายในกันอย่างต่อเนื่องเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการทำงานร่วมกันในกระบวนการเจรจาที่จะเกิดขึ้นต่อไป”

ก่อนหน้านี้ นายอาบูฮาฟิสได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแสดงท่าทีต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ระหว่างรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็นว่า “เสมือนเป็นการนับหนึ่งใหม่ วกวนอยู่กับที่ ทั้ง ๆ ที่ได้เคยคุยมาแล้ว (ตั้งแต่) ปี 2013 ทำให้มีคำถามว่ารัฐไทยใฝ่หาสันติภาพ/สันติสุขจริงหรือไม่”

“รอบที่แล้ว (ไทย-มาราปาตานี) ถึงจุดที่ทั้งสองฝ่ายตกลงจะจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย (safety zones) แต่ติดอยู่กับปัญหาการลงนาม จึงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ รอบนี้ไทยกับ BRN น่าจะเริ่มที่การพิจารณาหยุดยิง(cease-fire/cessation of hostilities) ให้ได้ก่อน แล้วจะได้เริ่มคุยเรื่องสาระสำคัญ (substantive issues) จึงถือว่าได้มีการสานต่อ และคืบหน้า” เขาให้ความเห็น

โฆษกมาราปาตานีสรุปท่าทีต่อการเจรจาว่า “มาราฯ จะเปิดทางให้ ไทย-BRN คุยกันไปก่อน เมื่อถึงเวลาอันควร ถึงจุดที่จะต้องคุยเรื่อง substantive issues มาราฯ ก็จะร่วมโต๊ะอีกครั้ง ในฐานะที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพูดคุย ยังเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเพื่อให้สอดคล้องกับการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย”

“ทิศทางบวก”

รุ่งรวี เฉลิมศรีภิญโญรัช นักวิจัยอิสระด้านการจัดการความขัดแย้ง วิเคราะห์ท่าทีล่าสุดของบีอาร์เอ็นที่ปรากฏในแถลงการณ์ว่าเป็นไปในทิศทางบวก แต่ยังต้องจับตาดูต่อไปว่าคำมั่นทั้งหลายที่บีอาร์เอ็นกล่าวนั้นจะแปลเป็นการกระทำหรือไม่

รุ่งรวีมองว่าขณะนี้ปัญหาหลักที่เป็นอุปสรรคของกระบวนการเจรจามาโดยตลอดได้ลดลงบ้างแล้ว นั่นคือ หนึ่ง-ปัญหาเรื่อง”ความเป็นตัวแทนที่แท้จริง” ของผู้นำการเจรจาของฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ และสอง-ปัญหาเรื่องความกลัวของรัฐบาลไทยในเรื่องการยกระดับให้ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่สากล ส่งผลให้ฝ่ายไทยปฏิเสธข้อเสนอของบีอาร์เอ็นที่ต้องการให้มีผู้สังเกตการณ์นานาชาติเข้ามาร่วมในกระบวนการพูดคุย

“ปัญหาเรื่องความเป็นตัวแทนลดลงหลังจากที่บีอาร์เอ็นออกมาประกาศว่าจะพูดคุยกับรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ขณะที่รัฐบาลไทยก็มีท่าทีที่อ่อนลงในเรื่องผู้สังเกตการณ์นานาชาติ เห็นได้จากการยินยอมให้ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเข้ามาสังเกตการณ์ โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลเหล่านั้นต้องมาในนามส่วนตัวและไม่ได้เป็นตัวแทนขององค์กรระหว่างประเทศใด ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการประนีประนอมของทั้งสองฝ่าย” รุ่งรวีกล่าว

อย่างไรก็ตาม เธอมองว่าขณะนี้รัฐบาลไทยอาจจะเห็นเรื่องการพูดคุยสันติสุขฯ เป็นประเด็นรอง เมื่อเทียบกับการต้องรับมือกับการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ลำดับเหตุการณ์ “พูดคุยสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้”

2547: เหตุการณ์ปล้นปืนครั้งใหญ่ 413 กระบอก จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 4 ม.ค. 2547 ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา รัฐบาลไทยทุกยุค พยายามเปิดการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

ส.ค. 2558: มาราปาตานี องค์กรร่มของฝ่ายขบวนการปลดแอกเอกราชปาตานี (Majlis Syura Patani: MARA Patani) เปิดตัวกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ทางการไทยเคยอธิบายว่ามาราปาตานีถือเป็นองค์กรร่มของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ 6 กลุ่ม ได้แก่ 3 กลุ่มย่อยขององค์กรปลดปล่อยสหปัตตานี (PULO ) กลุ่มแนวร่วมปลดแอกอิสลามปัตตานี (BIPP) ขบวนการมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี (GMIP) และบีอาร์เอ็น แต่ในภายหลัง PULO-P4 ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของ PULO ได้ถอนตัวออกไป

ที่มาของภาพ, TUWAEDANIYA MERINGING

คำบรรยายภาพ,

บีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์เมื่อเดือน เม.ย. 2563 หยุดปฏิบัติการทั้งหมดในช่วงโควิด-19

เม.ย. 2560: ขบวนการบีอาร์เอ็นประกาศไม่มีส่วนร่วมในกลุ่มมาราปาตานีที่กำลังพูดคุยหาแนวทางสันติภาพกับทางการไทย แต่ต้องการเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลไทยโดยมีประชาคมโลกร่วมสังเกตการณ์

ต.ค. 2562: พล.อ.วัลลภ รักเสนาะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเกษียณอายุราชการในตำแหน่งเลขาธิการ สมช. เขากล่าวในงานเสวนาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเชิญบีอาร์เอ็นมาเป็นแกนนำในการเจรจา

20 ม.ค. 2563: คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขชายแดนภาคใต้ กับผู้แทนของบีอาร์เอ็นพบกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นับเป็นการเป็นการเปิดเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็น

2-3 มี.ค. 2563: การเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ระหว่างทางการไทยกับบีอาร์เอ็น ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์

3 เม.ย. 2563: บีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์หยุดกิจกรรมความเคลื่อนไหวทั้งหมดของกลุ่มลงชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขได้ปฏิบัติงานในช่วงที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาด แถลงการณ์ระบุว่าบีอาร์เอ็นไม่ต้องการ “ซ้ำเติม” ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ต้องเผชิญกับปัญหาความไม่สงบ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปพร้อม ๆ กัน

3 ก.พ. 2564: คณะทำงานทางเทคนิคของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ประชุมทางไกลร่วมกับผู้แทนของบีอาร์เอ็น โดยมีตันสรี อับดุล ราฮิม บิน โมฮัมหมัด นูร์ เป็นผู้อำนวยความสะดวก ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะปรึกษาหารือกันอย่างสม่ำเสมอ

15 ก.พ. 2564: บีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์ทางยูทิวบ์ แสดงความพร้อมที่จะเข้าร่วมการพูดคุยกับทางการไทยต่อ ทั้งการประชุมด้านเทคนิค และการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ปัตตานี

ปัตตานี

เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้

Related Posts

Next Post

บทความ แนะนำ

No Content Available

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนถ่ายสินค้า การขุด หรือเจาะบ่อน้ำ การค้าวัสดุก่อสร้าง การฆ่าสัตว์ การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำมันพืช การผลิตน้ำแข็ง การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การผลิตรองเท้า การผลิตเส้นไหม การรีดโลหะ ผลิตเหล็ก การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริษัท ปัตตานี มูลนิธิ ร้านค้า วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.ปัตตานี เขต 1 สพป.ปัตตานี เขต 2 สพป.ปัตตานี เขต 3 สพม.เขต 15 สมาคม สำนักงานจัดการเดินทาง หน่วยงานราชการ อบต. อาหาร เอสเอ็มอี แฟรนไชส์ โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนสามัญ โอทอป