วันที่ 2 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อของวันที่ 1 ส.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 308 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ซึ่งขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสม 9,610 ราย รักษาหาย 6,417 ราย และเสียชีวิตสะสม 125 ราย
โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เนื่องจากประชาชนยังฝ่าฝืนมาตรการ มีการรวมกลุ่ม ปกปิดไทม์ไลน์ และผู้ป่วย Home Isolation (แยกกักที่บ้าน) ยังออกมาเดินเพ่นพ่าน ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีต้องสั่งปูพรมตรวจเชิงรุกในอำเภอต่างๆ แบบ ATK ปรากฏว่าใน 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาพบติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุก 1 พันกว่าราย
ขณะที่ หน่วยกู้ชีพเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันหยุด โดยเฉพาะหน่วยกู้ชีพกู้ภัย จ.ปัตตานี ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ซึ่งพวกเขาต้องรับผู้ป่วยทั้งโควิด-19 และผู้ป่วยทั่วไป โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตจากโควิดไปฝั่งที่สุสานทุกวัน บางวันตี 2 ก็ยังมีศพที่ต้องนำไปฝัง และบางพื้นที่กู้ชีพต้องไปรับศพผู้เสียชีวิตจากโควิด เพื่อไปฝังถึง 5 ศพ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเจ้าหน้าที่แพทย์ที่เสี่ยงติดเชื้อ ทำงานหนัก แม้กระทั่งต้องสวมชุด PPE อยู่กลางแดด ซึ่งอาสาสมัครเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นน้องๆ นักศึกษา หรือหนุ่มวัยรุ่น ที่อาสายื่นมือมาช่วย แต่พวกเขาก็ไม่เคยท้อ และพร้อมที่จะสู้ต่อไป
ทางด้าน นายอาลียาส ดาโอะ นายกสมาคมกู้ชีพ กู้ภัย ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี เผยว่า โดยปกติตนและทีมงานมีหน้าที่รับผู้ป่วยโควิด และผู้ป่วยทั่วไป เช่นเดียวกับศพโควิด ถ้าโรงพยาบาลประสานมาเราก็ดำเนินการเช่นกัน ซึ่งหน้าที่ที่ตนทำอยู่ก็ถือว่าเสี่ยงติดเชื้อมาก ถ้าเราไม่ทำ แล้วใครจะทำ แต่ทั้งนี้เราก็มีการป้องกันอย่างดี มีกังวลไปบ้าง ซึ่งเราก็พยายามบอกน้องทีมงานทุกคนว่า ถ้าเราจะท้ออย่างไร แต่เราต้องสู้ไปด้วยกัน ถ้าไม่ทำแล้วใครจะทำ.