ไทยติดโควิดเพิ่ม 2.4 หมื่นราย ดับนิวไฮอีกแล้ว 115 ราย มาจากอีสานมากที่สุด 41 ราย ภาคกลาง-ตะวันออก 30 ราย ภาพรวมทุกภาคติดเชื้อเกินร้อยเกือบทุกจังหวัด มีเพียง “ภาคใต้” สถานการณ์ต่ำกว่าภาคอื่น พบติดเชื้อสูงใน 4 จังหวัดใหญ่ ที่เหลือ 10 จังหวัดติดเชื้อต่ำกว่าร้อย ด้าน “ลำพูน” วันนี้รายงานเป็น 0
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,134 ราย สะสม 3,973,003 ราย หายป่วย 26,997 ราย สะสม 3,716,789 ราย เสียชีวิต 115 ราย สะสม 26,510 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 229,704 ราย อยู่ใน รพ. 60,555 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 169,149 ราย มีอาการหนัก 1,993 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 846 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 27.7%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 115 ราย มาจาก 47 จังหวัด ร้อยเอ็ดเสียชีวิตสูงสุด 14 ราย ตามด้วยอุบลราชธานี 6 ราย กทม. 5 ราย สมุทรปราการ สมุทรสาคร อุดรธานี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 4 ราย ที่เหลือเสียชีวิตจังหวัดละ 1-3 ราย โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสียชีวิตสูงสุด 41 ราย ภาคกลางและตะวันออก 30 ราย ภาคเหนือ 17 ราย ภาคใต้ 13 ราย และปริมณฑล 9 ราย เป็นชาย 56 ราย หญิง 59 ราย อายุ 31 – 99 ปี เฉลี่ย 75 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 98%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 3,221 ราย 2.ชลบุรี 1,034 ราย 3.ขอนแก่น 909 ราย 4.นนทบุรี 746 ราย 5.นครศรีธรรมราช 731 ราย 6.สมุทรปราการ 674 ราย 7.สมุทรสาคร 535 ราย 8.ร้อยเอ็ด 523 ราย 9.ฉะเชิงเทรา 520 ราย และ 10.ราชบุรี 514 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อเกิน 300 ราย มี 18 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ 494 ราย , ศรีสะเกษ 488 ราย , นครปฐม 471 ราย , สงขลา 451 ราย , นครราชสีมา 442 ราย , อุดรธานี 435 ราย , สกลนคร 420 ราย , ระยอง 394 ราย , เลย 394 ราย , อุบลราชธานี 389 ราย , ปทุมธานี 388 ราย , มหาสารคาม 382 ราย , สุพรรณบุรี 375 ราย , กาญจนบุรี 362 ราย , ปราจีนบุรี 342 ราย , นครสวรรค์ 339 ราย , หนองคาย 335 ราย และพระนครศรีอยุธยา 316 ราย
ขณะที่จังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 19 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร 95 ราย , สุราษฎร์ธานี 95 ราย , ตาก 92 ราย , กระบี่ 90 ราย , ตราด 89 ราย , บึงกาฬ 77 ราย , มุกดาหาร 76 ราย , ระนอง 76 ราย , สตูล 76 ราย , พังงา 73 ราย , ตรัง 67 ราย , พิจิตร 62 ราย , ชัยนาท 43 ราย , ยะลา 43 ราย , เชียงราย 41 ราย , พะเยา 33 ราย , ปัตตานี 32 ราย , แม่ฮ่องสอน 31 ราย และนราธิวาส 30 ราย ส่วนวันนี้ “ลำพูน” รายงานเป็น 0
สำหรับภาพรวมทุกภาคแต่ละจังหวัดมีการติดเชื้อสูงมากกว่าร้อยราย มีจังหวัดติดเชื้อต่ำกว่าร้อยรายเพียง 1-3 จังหวัด มีเพียง “ภาคใต้” ที่มีการติดเชื้อน้อยที่สุด โดยมี 4 จังหวัดที่มีการติดเชื้อเกินร้อยราย ที่เหลือ 10 จังหวัดติดเชื้อต่ำกว่าร้อยรายทั้งหมด
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 134 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 125 ราย ใน 27 ประเทศ โดยมาจากออสเตรเลียมากที่สุด 19 ราย เยอรมนี กัมพูชา ประเทศละ 13 ราย สิงคโปร์ อังกฤษ ประเทศละ 9 ราย เกาหลีใต้ 7 ราย มาเลเซีย 6 ราย เวียดนาม 5 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-4 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 99 ราย แซนด์บ็อกซ์ 11 ราย กักตัว 3 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 12 ราย จากเมียนมา สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-13 เม.ย. 2565 มีผู้เดินทาง 178,218 คน รายงานติดเชื้อ 843 คน คิดเป็น 0.47% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 167,432 คน ติดเชื้อ 713 คน คิดเป็น 0.43% แซนด์บ็อกซ์ 8,991 คน ติดเชื้อ 87 คน คิดเป็น 0.97% และกักตัว 1,795 คน ติดเชื้อ 43 คน คิดเป็น 2.4%
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2565 จำนวน 155,930 โดส สะสม 131,604,438 โดส เป็นเข็มแรก 55,992,734 ราย คิดเป็น 80.5% เข็มสอง 50,664,116 ราย คิดเป็น 72.8% และเข็ม 3 ขึ้นไป 24,947,588 ราย คิดเป็น 35.9%