วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2025
  • Login
ปัตตานี
  • ปัตตานี
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • ปัตตานี
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
ปัตตานี
No Result
View All Result
Home ข่าว

เกิดอะไรขึ้นที่ ‘ตากใบ’ เมื่อกว่า 16 ปีที่แล้ว เมื่อไม่มีผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียวถูกลงโทษ

ปัตตานี by ปัตตานี
5 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
158
0
100
SHARES
199
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

จากกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพูดคุยผ่านแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ (Clubhouse) โดยใช้ชื่อบัญชีว่า Tony Woodsome ในห้องสนทนาชื่อ “ไทยรักไทย ใครเกิดทัน มากองกันตรงเน้” วันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านา ถือเป็นปรากฏการณ์เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก คาดกันว่าราว 5 หมื่นคนเนื่องจากมีการเปิดห้องต่ออีกหลายห้อง

ประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดถึงหลังจากนั้นคือสถานการณ์คือกรณีตากใบ ที่มีผู้ถามสดในห้องและทักษิณตอบประมาณว่า กรณีดังกล่าวอยู่ในความควบคุมของทหาร ตนเองจำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ในโอกาสนี้จึงขอย้อนทวนไปเมื่อ 16 ปีกว่าที่แล้ว เพื่อทำความเข้าใจสั้นๆ ว่า เหตุการณ์ ‘ตากใบ’ ที่ว่านั้นคืออะไร

จับมัดมือเรียงคว่ำซ้อนทับกันตายเกือบ 100 ราย

เมื่อวันที่ วันที่ 25 ต.ค. 2547 เป็นวันที่ 10 ของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ประชาชนในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ต่างดำเนินชีวิตไปตามปกติ แต่เช้าวันนั้นไม่เหมือนเดิม เพราะมีการชุมนุมที่หน้า สภอ.ตากใบ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 6 คน ที่ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีโดยตั้งข้อหาแจ้งความเท็จและยักยอกทรัพย์

ขณะที่การชุมนุมของประชาชนจำนวนมากที่อยู่ใกล้ก็เริ่มจากไปมุงดู ส่วนที่อยู่ไกลออกไปหลังทราบว่า มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นหลายคนต่างขึ้นรถไปกับเพื่อนบ้านเพื่อไปมุงดูเหตุการณ์เช่นกัน โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

ต่อมา แม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะนั้นได้อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกมีคำสั่งสลายการชุมนุม พร้อมกับควบคุมตัวผู้เข้าร่วมชุมนุมนำขึ้นรถยนต์บรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในการขนย้ายผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการจับมัดมือเรียงคว่ำซ้อนทับกัน จนเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตรวม 78 ศพ (ไม่รวมผู้เสียชีวิตอีก 7 รายจากการสลายการชุมนุมก่อนการขนย้ายผู้ที่ถูกจับกุม) และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก

ไม่มีผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียวถูกลงโทษ

กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลของเหตุการณ์นี้จบลงตรงที่ศาลจังหวัดสงขลาได้ทำการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ และมีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ ช.16/2548 และคดีหมายเลขแดงที่ ช.8/2552 ว่าผู้ตายทั้ง 78 รายขาดอากาศหายใจในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการตามความจำเป็นแห่งสภาพการณ์เท่าที่เอื้ออำนวย และคำสั่งนี้ถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถอุทธรณ์ได้

คำสั่งของศาลนำมาสู่การตั้งคำถามอย่างหนักจากสังคมว่า ได้มีการพิจารณาถึงการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาและการปฏิบัติที่ประมาทจนทำให้ประชาชนเสียชีวิตหรือไม่ อีกทั้งคำสั่งของศาลนี้หมายความว่าไม่มีผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียวถูกลงโทษทางอาญาจากการตายของประชาชน 78 ราย

‘ผสานวัฒนธรรม’ เสนอยกเลิกใช้ กม.พิเศษในพื้นที่

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 ในวาระครบรอบ 16 ปีของเหตุการณ์ พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า แม้เวลาจะผ่านมานานถึง 16 ปี แต่กระบวนการยุติธรรมยังไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ แม้ว่าฝ่ายรัฐจะระบุว่ามีการลงโทษไปแล้ว คือ การย้ายผู้รับผิดชอบการปฏิบัติงานในวันนั้น ซึ่งก็คือแม่ทัพภาคที่ 4 ส่วนการเยียวยาก็มีการจ่ายเงินให้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด(รายละ) 7.5 ล้านบาท ตามมติ ครม. และมีการเยียวยาทางด้านจิตใจที่สำคัญ คือ หลังรัฐประหารปี 2549 นายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้มาขอโทษชาว จ.ปัตตานีในวาระหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลถึงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรม

“คดีที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมในที่เกิดเหตุ ซึ่งต้องเป็นคดีไต่สวนการตาย ซึ่งมีทั้งหมด 6 คน แต่กระบวนการยุติธรรมส่วนนี้ไม่ได้ถูกดำเนินการ ส่วนที่สองก็คือ กรณีไต่สวนการตายผู้ที่เสียชีวิต 78 คน จากการขนย้ายจากหน้า สภ.ตากใบ ไปที่ค่ายอิงคยุทธ จ.ปัตตานี มีการไต่สวนการตายที่ศาลจังหวัดสงขลา ผลของการไต่สวนการตายที่เขียนไว้ในคำพิพากษาว่าเป็นการขาดอากาศหายใจ ส่งผลให้ไม่มีการดำเนินคดีนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ หลายส่วนก็มองว่าคำพิพากษานี้มีปัญหา และเป็นการตอกย้ำถึงความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมต่อกรณีการสูญเสียของผู้ชุมนุม และเกิดจากการกระทำที่เกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในปี 47” พรเพ็ญ กล่าว

พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ กล่าวว่า อีกคดีที่เกี่ยวข้องก็คือ คดีของผู้ชุมนุมที่ถูกตั้งข้อหาเรื่องการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ มีทั้งหมด 58 ราย ต่อมาหลังรัฐประหาร ได้มีความเห็นของอัยการถอนฟ้องไป เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ ทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงของเหตุการณ์ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่หลายฝ่ายก็มองว่าไม่เป็นธรรม เพราะการกระทำที่เกินกว่าเหตุเกิดจากรัฐมากกว่าผู้ชุมนุม โดยทั้งภาพและบันทึกต่างๆ ที่เผยแพร่ออกไป มีการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมอย่างไร้มนุษยธรรม เช่น ให้ถอดเสื้อ ให้เอามือไขว้หลัง ให้นอนราบ ให้คลาน มีการใช้ความรุนแรงที่หลายฝ่ายคิดว่าเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ และเป็นการทรมานด้วย แต่กระบวนการยุติธรรมเหล่านั้นก็ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งปัจจุบัน

“การกระทำที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ตากใบ อาจเทียบเคียงได้กับเหตุการณ์ 6 ตุลา ถ้าจะพูดถึงในบริบทของประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่เกิดจากรัฐ การเยียวยาผู้สูญเสีย แม้ว่าจะเกิดการชดเชยด้านตัวเงินและคำขอโทษ แต่โดยภาพรวมแล้ว โครงสร้างหลักของกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงโดยรัฐยังไม่ถูกเปลี่ยนแปลง เจ้าหน้าที่รัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ก็มีการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการกับการชุมนุมและการปฏิบัติต่อชาวมลายู มุสลิมใน 3 จังหวัดดีขึ้นเป็นลำดับ แต่กลับเกิดความรุนแรงในรูปแบบหนึ่งคือการใช้กฎหมายพิเศษอย่างไร้หลักการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและหลักนิติธรรม เป็นความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งยังทำให้ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ หรือผู้ที่ต้องการเรียกร้องสิทธิ หรือบางส่วนอาจเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างไม่เป็นธรรม มีการจับกุมควบคุมตัว ใช้กฎหมายพิเศษ กฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการดำเนินคดีที่อาจทำให้มีผู้บริสุทธิ์ติดหลงเข้าไปในกระบวนการยุติธรรมเป็นจำนวนมาก” พรเพ็ญ กล่าว

พรเพ็ญ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ตากใบและสถานการณ์ปัจจุบันนั้น ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งยังต้องการสิ่งที่เรียกว่า “เสรีภาพในการแสดงออก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชน และบทบาทของภาคประชาสังคมในการสื่อสารความทุกข์โศก และความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น การจัดการความขัดแย้งต้องดำเนินด้วยวิธีสันติวิธีอย่างเคร่งครัด การยกเลิกประกาศใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็น่าจะเป็นจุดที่ทางราชการต้องพิจารณาเป็นลำดับแรก เพราะกฎอัยการศึกใช้มา 16 ปี พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงใช้มา 15 ปีเต็มแล้ว ทั้งที่สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ลดลงเป็นลำดับด้วยปัจจัยต่างๆ

“สิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ 7 วัน ของพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดเป็นเวลา 15 ปี ก็อยากให้หน่วยงานความมั่นคงพิจารณาเรื่องการลดหรือยกเลิกกฎหมายพิเศษ และนำกฎหมายปกติมาใช้ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบ ถ่วงดุลที่เป็นธรรมมากกว่า แล้วก็เรื่องเสรีภาพของสื่อเป็นสิ่งสำคัญในสถานการณ์ความขัดแย้งในทุกพื้นที่” ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรมกล่าว

Tags: newsข่าวจังหวัดปัตตานี
Previous Post

ราชกิจจาฯ เผยแผ่คำสั่งศบค.ประกาศ 76 จังหวัด พื้นที่“ควบคุม-เฝ้าระวังสูง-เฝ้าระวัง”

Next Post

บสย.บริจาคเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดี

ปัตตานี

ปัตตานี

เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้

Related Posts

ข่าว

ม.อ.เผยผลวิจัย พบ.ผู้ป่วยปอดบวมจากโควิด เสี่ยงติดวัณโรคมากกว่าคนทั่วไป 7 เท่า

กุมภาพันธ์ 1, 2023
'สมชัย'-สงสัย-กกต.-แบ่งเขตเลือกตั้งผิด?-หลังเอาจำนวน-ผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ
ข่าว

'สมชัย' สงสัย กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งผิด? หลังเอาจำนวน ผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ

มกราคม 31, 2023
ข่าว

ผู้ว่าหญิงปัตตานี นำทีมปั่นจักรยานแนะนำแหล่งท่องเที่ยว

มกราคม 29, 2023
ข่าว

อุตุฯเตือนดูแลสุขภาพอากาศหนาวเย็นลง

มกราคม 29, 2023
“นิพนธ์”เดินหน้าทำชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร-|-เดลินิวส์
ข่าว

“นิพนธ์”เดินหน้าทำชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร | เดลินิวส์

มกราคม 26, 2023
ข่าว

‘

มกราคม 26, 2023
Next Post
dFQROr7oWzulq5Fa4VZ0uJJdoqIzPWhBI9noqn444HdDu9uskIIZJkjp2tu7HFyVbco.jpg

บสย.บริจาคเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดี

บทความ แนะนำ

No Content Available

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนถ่ายสินค้า การขุด หรือเจาะบ่อน้ำ การค้าวัสดุก่อสร้าง การฆ่าสัตว์ การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำมันพืช การผลิตน้ำแข็ง การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การผลิตรองเท้า การผลิตเส้นไหม การรีดโลหะ ผลิตเหล็ก การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริษัท ปัตตานี มูลนิธิ ร้านค้า วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.ปัตตานี เขต 1 สพป.ปัตตานี เขต 2 สพป.ปัตตานี เขต 3 สพม.เขต 15 สมาคม สำนักงานจัดการเดินทาง หน่วยงานราชการ อบต. อาหาร เอสเอ็มอี แฟรนไชส์ โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา ปัตตานี



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!