“อยู่ได้ทุกวันนี้ ก็บุญตายโหง” “อนุทิน”ไม่ต่อรองขอโชว์เอกภาพ

พรรคใหญ่ระส่ำ “พปชร.”เหนื่อยลูกพรรคเปิดศึกแย่งชามข้าว “ปชป.”สิ้นมนต์ขลังสมาชิกเลื่อยขาหัวหน้าแตกต่าง ภท.ยุค” อนุทิน”แถวตรงเป๊ะ บริหารส.ส.ทั่วถึง ไม่ต่อรองนายกฯ ขอโชว์เอกภาพ 



พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กำลังเผชิญปัญหาภายในหนักหน่วง พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ยังปฏิบัติภารกิจสลายก๊กไม่สำเร็จ แม้ปัจจุบันมุ้งต่างๆ จะน้อยลง เหลือแค่กลุ่ม 3 ช. ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์  สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กับกลุ่มสามมิตร ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและทั้งสองกลุ่มยังคงงัดข้อกันอยู่เรื่อยๆ อย่างล่าสุดในช่วงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หนนี้ ที่กำลังไล่บี้ไล่เบียดให้ได้เก้าอี้เพิ่มขึ้น หรือ ตำแหน่งสูงขึ้น พร้อมเลื่อยขาเก้าอี้รัฐมนตรีที่มีสภาพบาดเจ็บและอ่อนแอ 

ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐยังต้องผจญกับปัญหาลูกพรรคดื้อ หลังกลุ่ม 6 ส.ส.ดาวฤกษ์ นำโดย มาดามเดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พา 5 ส.ส.กทม. แหกธรรมเนียมปฏิบัติการอยู่ร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล  โดยการงดออกเสียงให้กับ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย  ส่งผลเสียต่อ พล.อ.ประวิตร  ถูกท้าทายบารมี เพราะควบคุมลูกพรรคตัวเองไม่อยู่ จนเลขาธิการพรรคพปชร. ต้องออกมาขอโทษแทน 

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เจอปัญหาภาวะผู้นำ หลัง “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ถูกลูกพรรคเขย่าเก้าอี้หัวหน้าพรรคหลายครั้ง โดยเฉพาะ ส.ส.สายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำโดย อันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ล่าสุดสร้างวีรกรรมงามหน้า ลงมติงดออกเสียงให้รัฐมนตรีเกือบจะทุกคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่เว้นแม้แต่หัวหน้าพรรคตัวเอง ทั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ชื่อว่าเป็นพรรคการเมืองที่เคร่งครัดเรื่องมติพรรคมากที่สุดมาแต่ไหนแต่ไร 

นอกจากนี้ ในช่วงการนำของ จุรินทร์ พรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคที่ไม่ได้ดูน่าเกรงขาม หรือมีอำนาจต่อรองทางการเมืองสูงเหมือนในอดีต  ล่าสุดในช่วงการปรับ ครม. หลังมีข่าวว่าพรรคจะถูกริบเก้าอี้บางตัวคืน เนื่องจากสัดส่วน ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนไป  ทำให้แกนนำต้องรีบวิ่งไปหาพรรคภูมิใจไทยเพื่อผนึกกำลัง โชว์ความแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวร้อยกว่าเสียง  ไม่ให้แกนนำรัฐบาลมาเขย่าเก้าอี้ตัวเอง 

แต่ที่ดูเป็นเอกภาพมากที่สุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล เห็นจะไม่พ้นพรรคภูมิใจไทยภายใต้การนำของ “เสี่ยหนู”  อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ส.ส.ทั้งหมดของพรรคลงมติเป็นเอกภาพ ไม่มีใครแตกแถว หรือทำตัวเกเร  ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจยังเป็นพรรคเดียวในทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องคลื่นใต้น้ำภายในพรรคแม้แต่ครั้งเดียว 

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ”เสี่ยหนู” มีความเป็นผู้นำสูง รวมทั้งการบริหารจัดการภายในพรรคภท.และ ดูแลส.ส.อย่างทั่วถึง   ฝนตกทั่วฟ้า จัดสรรเรื่องต่างๆ แบบ ตรงคน ตรงใจ และตรงเวลา ใจถึงพึ่งได้ และยังลงไปคลุกคลีกับลูกพรรคตลอดเวลา แบบติดดิน เรียบง่าย หรือแม้ยามมีปัญหาใดๆ “อนุทิน” ก็ออกมายืนหนึ่ง ต่อสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน  พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง เพื่อปกป้องพรรคและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ส.ส.เลือดสีน้ำเงิน 

ขณะที่การปรับครม.รอบนี้ แม้มีแนวโน้มว่าพรรคภูมิใจไทย ที่มี 61 เสียง และจะได้ ส.ส. มาเพิ่มขึ้นอีก4 เสียงจากพรรคก้าวไกลหลังส.ส. ดังกล่าวโหวตสนับสนุนการทำงานให้แก่หัวหน้าและเลขาธิการพรรคในช่วงศึกซักฟอกซึ่งทำให้พรรคภูมิใจไทย มีจำนวนเสียงส.ส.ที่คาดว่าจะได้เพิ่มขึ้นมาก   แตกต่างจากช่วงจัดตั้งรัฐบาลที่มีส.ส.เพียง51 เสียงเท่านั้น  แต่ “อนุทิน” ก็ไม่โลภขอตำแหน่งเพิ่มเพราะไม่ต้องการเพิ่มภาระให้แก่ นายกฯ บิ๊กตู่ 

“ที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ก็บุญตายโหงอยู่แล้ว ได้ทำงาน เจ้านายก็ดี เพื่อนร่วมงานก็ดี”

 



“หัวหน้าพรรคภท.” ตอบชัดๆ หลังถูกถามต้องการโควต้ารัฐมนตรีเพิ่มขึ้นหรือไม่