“ปัตตานี” ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หลังน้ำจากยะลาและนราธิวาสไหลสมทบทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 5 อำเภอ หลายหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือ ด้านสำนักชลประทานเร่งระบายน้ำบรรเทาความเดือนร้อน
วันนี้ (9 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำแม่น้ำปัตตานี ที่ทอดผ่านใจกลางเมืองปัตตานี ล้นตลิ่งท่วมถนนและบ้านริมแม่น้ำภายในเทศบาลเมืองปัตตานีแล้ว ชาวบ้านต้องขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง นอกจากนี้ระดับน้ำแม่น้ำที่สูงขึ้น ยังส่งผลให้คูคลองต่างๆ ภายในเทศบาลเมืองปัตตานี ระดับน้ำสูงขึ้นจนล้นคลองออกไปบนถนน ทำให้การจราจรเป็นไปอย่างยากลำบาก
นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือและรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยน้ำที่เข้าท่วม จ.ปัตตานี ครั้งนี้ เป็นปริมาณน้ำจาก จ.ยะลา ที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำปัตตานี และน้ำจาก จ.นราธิวาส ที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำสายบุรี ทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำทั้ง 2 สาย รวม 5 อำเภอใน จ.ปัตตานี ได้รับผลกระทบ จึงต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อเข้าช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
ส่วน จ.ยะลา ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตั้งครัวสนามและจัดเตรียมน้ำดื่ม เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมใน อ.ท่าสาป อ.เมืองยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง หลังชาวบ้านขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากบ่อน้ำตื้นและบ่อน้ำบาดาล ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ล่าสุด ระดับน้ำริมแม่น้ำสายบุรี เริ่มลดลงแล้ว
นายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 สั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระดมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ไปยังจุดต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง ขณะเดียวกัน ประตูระบายน้ำทุกแห่งให้เปิดบานพ้นน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทย คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย
