วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2025
  • Login
ปัตตานี
  • ปัตตานี
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • ปัตตานี
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
ปัตตานี
No Result
View All Result
Home ข่าว

พื้นที่พิเศษ

ปัตตานี by ปัตตานี
4 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
158
0
100
SHARES
199
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

เสือตัวที่ 6

ยาเสพติดถือเป็นหนึ่งในภัยแทรกซ้อนที่ทําให้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งมีข้อมูลชัดเจนว่า ยาเสพติดในพื้นที่ โดยเฉพาะพืชกระท่อมนั้น มีส่วนสำคัญที่เกี่ยวโยงกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยาเสพติด ที่นิยมใช้กันของกลุ่มวัยรุ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากที่สุด คือ ใบกระท่อม สาเหตุที่ ใบกระท่อมเป็นยาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดสูงมาก เนื่องจากมีความนิยมสูงของกลุ่มผู้เสพโดยเฉพาะวัยรุ่นในพื้นที่ จึงมีขบวนการลักลอบนําเข้าจํานวนมาก จากสถิติของสํานักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง พบว่า การจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อําเภอของจังหวัดสงขลา คือ เทพา นาทวีจะนะ และสะบ้าย้อย แต่ละปีมีการจับกุมยาเสพติด เพิ่มสูงขึ้น โดยการปลูกสําหรับการบริโภค หรือการแบ่งจําหน่ายแบบไม่เป็นทางการ การลักลอบปลูก ลักษณะนี้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พบมากในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานีและยะลา ตามลําดับ

ต่อมา เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8 ) พ.ศ. 2564 สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยที่ปัจจุบันพืชให้ยกเลิก “พืชกระท่อม” จากยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีผลบังคับใช้ในอีก 90 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากล และบริบทของสังคมไทยในบางพื้นที่ กระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แต่ในหลายประเทศมิได้กำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ ประกอบกับอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ.1961 และพิธีสารแก้ไขอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ. 1972 มิได้กำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากลและบริบทของสังคมไทยในบางพื้นที่ที่มีการบริโภคพืชกระท่อม ตามวิถีชาวบ้าน สมควรยกเลิกพืชกระท่อมจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะตรงกับวันที่ 24 ส.ค.64 โดยประชาชนสามารถนำพืชกระท่อมมาใช้ประโยชน์ ในรูปแบบวิถีชาวบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการใช้พืชกระท่อมทางการแพทย์ ในขณะนี้ได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ…. ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่างกฎหมายมีหัวใจการกำหนดมาตรการกำกับดูแล และป้องกันการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิดภายหลังถอดให้โทษ โดยเฉพาะควบคุมไม่ให้เด็กและเยาวชน นำกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด และให้ชาวบ้านเข้าถึงการปลูกและแปรรูปพืชกระท่อมได้ สามารถรวมกลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเป็นรายบุคคลเพื่อจำหน่ายเองได้ ดังนั้น พ.ร.บ.พืชกระท่อมฉบับนี้จึงถือเป็นกฎหมายที่มาจากวิถีชาวบ้าน ตามความต้องการของประชาชนโดยประชาชน เป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง

หากแต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่มองแต่ประโยชน์ของพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8 ) พ.ศ. 2564 ให้ยกเลิก “พืชกระท่อม” จากยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ครั้งนี้ ที่มองว่ามีความรอบคอบแล้ว ในแง่มุมที่สังคมบางส่วนยังห่วงกังวล โดยเฉพาะปัญหาพืชชนิดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของยา 4 คูณ 100 โดยเห็นว่า จากนี้ไปการปลูกพืชกระท่อม การนำเข้า การส่งออกเชิงพาณิชย์ การขายในระบบอุตสาหกรรม จะต้องดูเรื่องปริมาณ จะต้องอยู่ในปริมาณที่กำหนดไว้ในกฎหมาย รวมถึงเรื่องคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ผู้ขอรับอนุญาต หรือผู้ปลูก ผู้ขาย ผู้นำเข้า ผู้ส่งออกพืชกระท่อม ก็จะต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนด้วยเช่นกัน จะมีการออกมาตรการมาคุ้มครองว่าจำนวนเท่าไหร่ที่บริโภคแล้วถือว่าเป็นอันตราย เพราะจะต้องจำกัดในการบริโภคด้วย โดยย้ำว่า เรื่องการขายน้ำต้มกระท่อม อาหารที่มีส่วนผสมของใบกระท่อมให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ไม่สามารถทำได้ หรือแม้แต่การขายใบกระท่อม น้ำต้มกระท่อม ในสถานศึกษา หอพัก หรือในวิธีอื่นๆ ที่ไม่สามารถควบคุมดูแลได้ เช่น การขายโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้

แม้ว่ามุมมองที่เห็นประโยชน์ของการออกกฎหมาย ยกเลิกพืชกระท่อม เป็นสารเสพติด จะมีอยู่มากมาย รวมทั้งมีความพยายามในการออกมาตรการในการควบคุม ไม่ให้มีการใช้โอกาสนี้ ในการนำไปเป็นส่วนประกอบสำคัญของยากล่อมประสาทให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่มีความฮึกเหิมลืมตัวร่วมขบวนการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ปลายด้ามขวานของไทยได้ง่ายมากขึ้น หากแต่ที่ผ่านมา กฎหมายและมาตรการหลายครั้งหลายอย่างของรัฐ มักมีช่องว่างในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่ปลายด้ามขวานซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษ ที่ยังมีความล่อแหลมที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐอย่างเห็นได้ชัด

ด้วยมีข้อมูลชัดเจนว่ากลุ่มก่อความไม่สงบรวมทั้งแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนแห่งนี้ มีการใช้พืชกระท่อม เป็นส่วนผสมหลักของยากระตุ้นประสาทที่เรียกว่า 4 คูณ 100 ที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมเสพ เพื่อให้เกิดความฮึกเหิมอย่างลืมตัว ลืมตายในการก่อเหตุร้ายทำลายผู้คนที่บริสุทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีผู้นำชุมชนหลายคน มีความกังวลว่า หากมีการซื้อขายกันได้สะดวก ไม่ผิดกฎหมาย จะทำให้กลุ่มวัยรุ่น หันมา เสพน้ำกระท่อม สูตร 4 คูณ 100 กัน เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีใบกระท่อมเป็นตัวผสมหลัก นำไปสู่ ยาเสพติดประเภทอื่นต่อไป โดยเฉพาะการเป็นยากระตุ้นประสาท ที่เรียกว่า 4 คูณ 100 ให้เป็นตัวกระตุ้นจิตใจให้หาญกล้าทำเรื่องเลวร้ายที่กระทบต่อความมั่นคงหรือความสงบสุขในพื้นที่

ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ที่เห็นด้วยและชื่นชอบการการยกเลิกพืชกระท่อม เป็นพืชเสพติด โดยเล็งเห็นให้เป็นพืชเศรษฐกิจในภาพรวม ที่ครอบคลุมหลายจังหวัดภาคใต้ เพราะเป็นการประกาศอิสรภาพให้พืชประจำถิ่นชนิดนี้ ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นยาเสพติดมาเป็นเวลาหลายสิบปี ให้มีโอกาสเติบโต ต่อยอดไปในแง่มุมอื่นๆ เพื่อสร้างเศรษฐกิจของท้องถิ่นให้มีโอกาสก้าวหนาทัดเทียมประเทศข้างเคียง หากแต่ในอีกมุมหนึ่ง ผู้นำชุมชนและฝ่ายความมั่นคงของรัฐ ยังมีความห่วงกังวลผลกระทบและโอกาสร้ายๆ ที่ฝ่ายขบวนการและกลุ่มที่มีผลประโยชน์ร่วมกับความไม่สงบในพื้นที่ จะใช้โอกาสนี้ในการมอมเมาเยาวชนในท้องถิ่น ให้ร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้โดยไม่รู้ตัว จึงต้องการให้ รัฐเร่งหามาตรการป้องกันที่เข้มข้น และทำได้จริงในพื้นที่ปลายด้ามขวาน เพราะพื้นที่แห่งนี้ มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่น จึงต้องให้ความรอบคอบ รัดกุมเป็นพิเศษนั่นเอง

Tags: newsข่าวจังหวัดปัตตานี
Previous Post

ตำรวจปัตตานีเร่งตามจับแม่ใจร้ายทิ้งลูกแรกเกิดมดรุมกัดทั้งตัว

Next Post

ยะลาต่อเวลา “คุมเข้มข้ามจังหวัด” – สงขลา ปัตตานี ไฟเขียว “ทานที่ร้าน”

ปัตตานี

ปัตตานี

เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้

Related Posts

ข่าว

ม.อ.เผยผลวิจัย พบ.ผู้ป่วยปอดบวมจากโควิด เสี่ยงติดวัณโรคมากกว่าคนทั่วไป 7 เท่า

กุมภาพันธ์ 1, 2023
'สมชัย'-สงสัย-กกต.-แบ่งเขตเลือกตั้งผิด?-หลังเอาจำนวน-ผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ
ข่าว

'สมชัย' สงสัย กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งผิด? หลังเอาจำนวน ผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ

มกราคม 31, 2023
ข่าว

ผู้ว่าหญิงปัตตานี นำทีมปั่นจักรยานแนะนำแหล่งท่องเที่ยว

มกราคม 29, 2023
ข่าว

อุตุฯเตือนดูแลสุขภาพอากาศหนาวเย็นลง

มกราคม 29, 2023
“นิพนธ์”เดินหน้าทำชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร-|-เดลินิวส์
ข่าว

“นิพนธ์”เดินหน้าทำชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร | เดลินิวส์

มกราคม 26, 2023
ข่าว

‘

มกราคม 26, 2023
Next Post
covidsouth300811

ยะลาต่อเวลา “คุมเข้มข้ามจังหวัด” - สงขลา ปัตตานี ไฟเขียว “ทานที่ร้าน”

บทความ แนะนำ

No Content Available

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนถ่ายสินค้า การขุด หรือเจาะบ่อน้ำ การค้าวัสดุก่อสร้าง การฆ่าสัตว์ การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำมันพืช การผลิตน้ำแข็ง การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การผลิตรองเท้า การผลิตเส้นไหม การรีดโลหะ ผลิตเหล็ก การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริษัท ปัตตานี มูลนิธิ ร้านค้า วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.ปัตตานี เขต 1 สพป.ปัตตานี เขต 2 สพป.ปัตตานี เขต 3 สพม.เขต 15 สมาคม สำนักงานจัดการเดินทาง หน่วยงานราชการ อบต. อาหาร เอสเอ็มอี แฟรนไชส์ โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา ปัตตานี



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!