รายการ “แฉ” วันที่ 8 มีนาคม 2564 เปิดใจพูดคุยกับบุหงาวลัย คงขวัญ หรือ พระมหาเทวีเจ้า แห่งเมืองทิพย์ผู้เป็นที่รักของพสกนิกรและเยาวรุ่นเมืองทิพย์ผู้สร้างปรากฏการณ์หัวลำโพงรวมไปถึงห้างฯสยามพารากอนแตก หลังเดินทางด้วยรถไฟเป็น 10 กว่าชั่วโมงเข้า กทม. มากับผู้ติดตามคือ ทิพย์ หรือที่เรารู้จักกันและได้ยินติดหูว่า อีทิพย์
ซึ่ง พระมหาเทวีเจ้า เผยว่าการตอบรับมาเล่นหนังเพราะต้องการที่จะหาเงินเพื่อไปรักษาแม่ที่กำลังป่วย เพราะตอนนี้ตนเหลือแม่แค่คนเดียวแล้ว ส่วนพี่ก็ได้เสียไปตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว และตนก็ต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวในการดูแลแม่และส่งเสียน้องชาย และตนไม่เคยเกี่ยงงานที่มีคนจ้างไม่ว่างานนั้นจะหนักแค่ไหนเพราะต้องการหาเงินเพื่อมารักษาแม่ เพื่อให้แม่อยู่กับเธอให้นานที่สุด
เธอเล่าต่อว่าอยากได้เงินไปรักษาดวงตาของแม่ แม่มีปัญหาเเรื่องต้อกระจกตา รวมไปถึงเจอก้อนเนื้อมะเร็งที่สะโพก ทุกวันนี้กระดูกขาแม่ก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นไปกรีดยางบนเขาติดต่อการหลายปี หมอบอกว่าน้ำมันไขข้อหมด แม่บ่นตลอดว่าทรมานมาก ตนก็นอนน้ำตาไหลทุกครั้งและคิดวิธีหาเงินมารักษาแม่
เจ้าของวลี “จะบ้าตายรายวัน” เล่าว่าอาชีพจริงๆ ของเธอคือ ผู้ช่วยพยาบาล พับเสื้อผ้าผู้ป่วย ปูเตียง ทำมา 3-4 ปีแล้ว นอกจากนี้เธอยังเปิดเผยเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน คือ ตนเองมีเจ้าหลวงแห่งเมืองทิพย์ หรือภาษาเราๆ ก็เรียกว่า สามี กินอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลา 17-18 ปี ก่อนจะเลิกกันไปก่อนที่ตัวเองจะดัง
ส่วน ทิพย์ เล่าว่าปัจจุบันตนเปิดร้านเสริมสวยที่ จ.ปัตตานี มีความสนิทกับพี่หญิงลี หรือ พระมหาเทวีเจ้า เปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกัน ตนเป็นคนขี้แกล้งก็จะอัดคลิปลงโซเชียลตั้งแต่เฟซบุ๊กยังไม่มีไลฟ์สด เวลาทำผมให้ไม่ถูกใจก็จะโดนวีนชาวเน็ตก็ชอบจนกลายเป็นที่โด่งดัง
ก่อนหน้านี้ตนทำงานที่บาร์ใน จ.ภูเก็ต ตั้งแต่อายุ 18-19 ปี ก่อนจะกลับบ้านเกิดที่ จ.ปัตตานี เปิดร้านเสริมสวยเมื่อปี 2558 เป็นที่มาของความสนิทสนมกับพี่หญิงลี หรือ พระมหาเทวีเจ้า ส่วนรายได้จากการทำผม ทิพย์ เล่าว่าเริ่มต้นที่ 70 บาท แต่พอเมื่อมีชื่อเสียงกลายเป็นที่รู้จักซึ่งช่วงหลังๆ ตนก็ไม่คิดเงินแล้ว ทำให้ฟรีๆ โดยเฉพาะกลุ่มสาวประเภทสองด้วยกันบางวันนัดๆ กันมาตนก็ทำให้ฟรีเลย