ปัตตานี – จ.ปัตตานีหวังกดตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ให้เห็นผลหลังเดือน ส.ค.นี้ เร่งเดินหน้าตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK และรถชีวนิรภัยพระราชทาน
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ของขวัญวันแม่แด่ชาวปัตตานี” เพื่อเพิ่มการเข้าถึงค้นหาในกลุ่มประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้อย่างรวดเร็ว โดยมี นายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เข้าร่วม และมี นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวรายงาน มีพนักงานบริษัท และประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบบริการการคัดกรองได้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก โดยเป้าหมายที่วางไว้สามารถตรวจได้วันละประมาณ 1,000 คน และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใน จ.ปัตตานี ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ได้ประกาศให้ จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จ.ปัตตานี จึงได้ปรับกลวิธีการควบคุมโรคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินการคัดกรองเชิงรุกเพื่อการค้นหาผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว โดยหวังว่าตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 หลังเดือนสิงหาคมเห็นผล และจะลดลงตามลำดับ โดยดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยการใช้ Antigen Test Kit หรือที่เรียกว่า ATK “เพื่อเป็นของขวัญวันแม่แด่ชาวปัตตานี” เพื่อเพิ่มการเข้าถึงในการค้นหาติดเชื้อในกลุ่มประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบบริการการคัดกรองได้ ซึ่งวิธีการตรวจโดยรถชีวนิรภัยพระราชทานจะทราบผลภายในเวลา 15-20 นาที สามารถนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่การกระบวนการดูแลรักษาได้อย่างรวดเร็ว และเหมาะสม จะส่งผลให้ลดความรุนแรงของโรค และเพิ่มประสิทธิภาพของการควบคุมโรคได้
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวเพิ่มอีกว่า สำหรับโครงการ “ของขวัญวันแม่แด่ชาวปัตตานี” กิจกรรมดังกล่าวดำเนินการระหว่างวันที่ 18-31 สิงหาคม 2564 ใน 1 วันให้บริการ 2 รอบ รอบที่ 1 ตั้งแต่เวลา 08.30-11.30 น. และรอบที่ 2 ในเวลา 13.00-15.00 น. โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอตรวจได้ ณ บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี โดยการร่วมมือจากบุคลากรสาธารณสุขใน จ.ปัตตานี ทุกฝ่าย และบุคลากรจากสำนักอนามัยเขต 12 สงขลา