ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาล อุทธรณ์ ประหารชีวิตจำเลย 6 คน จำคุกตลอดชีวิต 3 คน และจำคุก 36 ปี 8 เดือนอีก 1 คน ในคดีร่วมกันวางระเบิดป่วนเมืองปัตตานี เมื่อปี 59 ทั้งบึมร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเฟอร์นิเจอร์ และถล่มเรือประมง ชี้พฤติการณ์การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานซ่องโจร เป็นการร่วมกันสะสมกำลังพล หรืออาวุธเพื่อก่อการร้าย
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ ประหารชีวิต 6 จำเลยคดีวางระเบิดปัตตานี คุกตลอดชีวิต 3 คน เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ศาลจังหวัดปัตตานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำที่ อ.1118/60 คดีแดงที่ 1539/61 ยืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ประหารชีวิตจำเลย 6 คน จำคุกตลอดชีวิต 3 คน และจำคุก 36 ปี 8 เดือน อีก 1 คน ในคดีร่วมกันลอบวางระเบิดก่อวินาศกรรม 6 ครั้งในพื้นที่เทศบาลเมืองปัตตานี จ.ปัตตานี ช่วงเดือน มิ.ย.-ธ.ค.2559
คดีแรกเหตุลอบวางระเบิดร้านศรีปุตรี ข้างมัสยิดกลางเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2559 คดีที่ 2 เหตุระเบิดบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวเบิ้ม หน้าตลาดโต้รุ่ง ถนนพิพิธ ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2559 เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 18 คน คดีที่ 3 เหตุจับกุมนายรูสรัน แวหะยี ตรวจพบอาวุธปืน 1 กระบอก และอุปกรณ์ประกอบระเบิดในพื้นที่ ต.บาราเฮาะ อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2559 คดีที่ 4 เหตุจับกุมนายฮามิด เจะมะ ตรวจยึดอุปกรณ์ระเบิดในพื้นที่ ต.คลองมานิง อ.เมืองปัตตานี คดีที่ 5 เหตุระเบิดเรือประมง ธ.ศิริพงษ์ และเรือโชคพรชัย 3 ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2559 เหตุการณ์นี้คนร้ายนั่งเรือนำระเบิดแสวงเครื่องติดตั้งไว้บนกล่องโฟมแล้วนำไปวางใกล้กับเรือ และคดีสุดท้ายเหตุระเบิดร้าน JP เฟอร์นิเจอร์ อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2559
ทั้ง 6 คดี มีจำเลยรวม 10 คน ประกอบด้วย นายมะซัน สาและ จำเลยที่ 1 จับกุมเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2559 2.นายอับดุลเลาะ ฮะยีอูมาร์ จำเลยที่ 2 จับกุมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2559 นายอิบรอเห็ม ยูโซ๊ะ จำเลยที่ 3 จับกุมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2559 นายอัมรีย์ ลือเย๊าะ จำเลยที่ 4 จับกุมเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2559 นายสันติ จันทรกุล จำเลยที่ 5 จับกุมเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2559 นายอายุบ เปาะลี จำเลยที่ 6 จับกุมเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2560 นายฮามิด เจ๊ะมะ จำเลยที่ 7 จับกุมเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2559 นายอิสมะแอ ตุยง จำเลยที่ 8 จับกุมเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2559 นายรูสรัน แวหะยี จำเลยที่ 9 จับกุมเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2559 และนายนอรอนิง นอเดร์ จำเลยที่ 10 จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2559
ทั้งนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานซ่องโจร เป็นการร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธเพื่อก่อการร้าย โดยพยานสำคัญตามโครงการคุ้มครองพยานให้การซัดทอดว่า จำเลยเป็นผู้ร่วมก่อเหตุจากหลายเหตุการณ์ ศาลฎีกาจึงพิพากษารวมทุกฐานความผิด โดยสั่งลงโทษ ประหารชีวิต จำเลยที่ 3, 4, 5, 6, 8, 10 รวม 6 คน และสั่งจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1, 2, 9 รวม 3 คน ขณะที่จำเลยที่ 7 ศาลพิพากษาจำคุก 36 ปี 8 เดือน
