วันพฤหัสบดี ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2564, 21.10 น.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มี.ค. 64 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กลุ่มเครือข่ายนักเรียนสื่อ ประกอบด้วย ตัวแทนนิสิตนักศึกษา จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.ศิลปากร ภาควิชานิเทศศาสตร์ วารสารคอนเวอร์เจนซ์ ม.ราชภัฏพระนคร ภาควิชาวิทยาการสื่อสาร นิเทศศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย น.ส.ลักษณาพร ทาระพันธ์ นิสิตคณะนิทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง 6องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์
สมาคมนักข่าวนักหนังสีอพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศนไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ผ่านทางนายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสีอพิมพ์แห่งประเทศไทย เพื่อเรืยกร้องให้ 6 องค์กรวิชาชีพมีมาตรการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และความปลอดภัยของสื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวเจ้าหน้าตำรวจใช้กำลังอาวุธสลายการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม Restart Democracy – ประชาชนสร้างตัว หรือ รีเด็ม (REDEM) ที่บริเวณท้องสนามหลวง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.ลักษณาพร กล่าวว่า ภาคีนักเรียนสื่อขอแสดงความห่วงใยต่อผู้สื่อข่าวภาคสนาม ช่างภาพ และบุคลากรขององค์กรสื่อมวลชนทุกสำนักทุกแขนงที่ต้องเผชิญกับอุปสรรค แรงกดดัน และความอันตรายในก ารนำเสนอข่าวการชุมนุมทางการเมือง ขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียทั้งทางร่ายกาย จิตใจ และทรัพย์สินของสื่อมวลชนทุกคน อันเนื่องมาจากเหตุสลายการชุมนุม ทั้งนี้ ภาคีนักเรียนสื่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สื่อมวลชนจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้ส่งต่อข้อเท็จจริงได้อย่างเป็นอิสระ ถูกต้องเหมาะสมตามกรอบจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและสาธารณประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญเพราะว่าข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วน รอบด้าน และเป็นธรรม คือพื้นฐานของกระบวนการสันติวิธีที่สื่อมวลชนมีส่วนร่วม
ในการสร้างให้เกิดขึ้นได้ และขอประณาม 6องค์กรวิชาชีพสื่อ ที่ไม่ยืนหยัดเพื่อสิทธิ เสรีภาพ และความปลอดภัยของสื่อมวลชนภาคสนาม รวมถึงไม่ส่งเสียงประณามเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้ความรุนแรงต่อสื่อมวลชน อันเป็นสิ่งที่องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนพึงกระทำ และขอให้องค์กรวิชาชีพสื่อระลึกว่า แม้การใส่ปลอกแขนแสดงสัญลักษณ์วิชาชีพจะไม่ได้เป็นเครื่องมือป้องกันความรุนแรงของผู้สื่อข่าว แต่มิได้หมายความว่าองค์กรวิชาชีพสื่อจะสามารถเพิกเฉยต่ออันตรายที่ผู้สื่อข่าวภาคสนามได้รับ และปัดความรับผิดชอบมาให้ตัวผู้สื่อข่าวเองฃ
ทั้งนี้ นายมงคลได้เปิดโต๊ะเสวนาให้กลุ่มภาคีนักเรียนสื่อเสนอแนะความเห็น โดยมีตัวแทน 6 องศ์กรวิชาชีพสื่อร่วมรับฟังข้อเสนอแนะด้วย ซึ่งได้มีการทำความเข้าใจในบทบาทขององศ์กรวิชาชีพ ตลอดจนการทำงานของสื่อมวลชนในภาคสนาม อีกทั้งได้แจ้งผลการหารือแนวทางกับทางเจ้าหน้าที่



