เช้านี้ที่หมอชิต – แพทย์และองค์กรมุสลิม จี้รัฐบาลเร่งหามาตรการควบคุมให้เกิดการใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น หลังกังวลเยาวชนจะตกเป็นเหยื่อการใช้กัญชาผิดประเภท เช่นล่าสุดเมื่อวานนี้ มีรายงานเด็กวัย 4 ขวบครึ่ง ดื่มชากัญชาจนหลับยาวถึง 14 ชั่วโมง
ปรากฏการณ์พิษภัยของการเปิดเสรีพืชกัญชง และกัญชา โดยเฉพาะอย่างหลัง “กัญชา” เมื่อวานนี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย นำผลการเก็บข้อมูลของคณะอนุกรรมการจัดทำข้อแนะนำเรื่องผลกระทบของกัญชาต่อเด็กมารายงาน พบว่าในรอบ 20 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน – 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเยาวชนได้รับผลกระทบจากกัญชาทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจใช้ รวม 14 คน
โดย 5 รายใหม่ในรอบ 10 วันที่ผ่านมา มีเด็กวัย 11 ขวบ 4 เดือน รับประทานต้มไก่บ้านใส่ใบกัญชา จากคำชักชวนของเพื่อน จนเกิดอาการง่วง ซึม เดินเซ พูดไม่ชัด อาเจียน ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 3 วัน ซ้ำร้ายยังพบเด็กวัย 4 ขวบครึ่ง ดื่มชากัญชาของย่าที่ต้มไว้ดื่มภายในบ้านจนนอนหลับไปถึง 14 ชั่วโมง และยังเกิดอาการซึมและอาเจียนอีกด้วย
ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่เป็นการใช้ของคนในครัวเรือน หรือเพื่อนที่ใกล้ชิดชักชวน ทำให้แพทย์ออกมายอมรับว่า เป็นห่วงเยาวชนไทย ซึ่งในอนาคตอาจจะยิ่งพบว่ามีเด็กได้รับผลกระทบจากกัญชาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากรัฐบาลยังไม่เร่งออกมาตรการคุมเข้มให้ใช้ได้ทางการแพทย์เท่านั้น
สอดคล้องกับ 25 องค์กรมุสลิม วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ มีนัดเคลื่อนไหวใหญ่ โดยจะยื่นหนังสือรณรงค์คว่ำร่างกฎหมายที่เปิดช่องให้ใช้กัญชาได้อย่างเสรี ผ่านทาง 5 ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แก่ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส
หลังกังวลพิษภัยจากกัญชาที่มีการนำไปใช้นอกเหนือจากทางการแพทย์ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนวัยเปราะบางที่ยังขาดวุฒิภาวะจนเสี่ยงเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ นำไปสู่การติดยาเสพติดเพิ่มขึ้น
นอกจากด้านลบแล้ว เมื่อวานนี้ เครือข่ายกัญชาภาคประชาชน เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการเดินหน้านโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์
ซึ่ง นายอนุทิน กล่าวย้ำให้เครือข่ายฯ ช่วยสื่อสาร ทำความเข้าใจ นโยบายกัญชาเสรีเป็นไปเพื่อการแพทย์เพื่อสุขภาพ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ซึ่งประชาชนหลายคนก็ได้ผลประโยชน์จากนโยบายนี้ แม้ตอนนี้มีความพยายามด้อยค่าพูดแค่ด้านลบให้พืชกัญชงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดใหม่
ก็เป็นความคืบหน้าทั้งด้านลบ และด้านบวก ของการใช้พืชกัญชงและกัญชา โดยเฉพาะพืชตัวหลังก็ต้องควบคุมกันให้ดี เพราะขณะนี้หากไถมือถือไปในโซเชียล เรามักเห็นภาพเยาวชนเมากลิ้ง พูดไม่รู้เรื่องหมดแรงจากการพี้กัญชา ซึ่งขัดหลักเจตนารมณ์ที่ต้องการใช้ทางการแพทย์



