จนท.เร่งตรวจสอบตัด “ไม้ยวน” ขนาดใหญ่ กลางป่า อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส หลังจับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมรถแบคโฮ รถแทรกเตอร์ ฯลฯ ขณะที่ ขรก.ท้องถิ่นคนหนึ่ง อ้างเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์
วันที่ 18 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป เเละเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพราน 4912 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 เข้าพื้นที่ป่าที่มีการลักลอบตัดไม้ใหญ่ ในบ้านดาฮง หมู่ 4 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณนี้ครั้งแรก พบไม้ยวนขนาดใหญ่ อายุตั้งแต่ 100-300 ปี ถูกตัดโค่น พบร่องรอยของการใช้รถแบ็คโฮ ตีนตะขาบไถ มีการขุด ตัดถม ทำให้พื้นที่ป่าเสียหาย และมีการโค่นไม้ยวนขนาดใหญ่ 2 ต้น ไม้สยา และไม้กาลออีกหลายต้น
จึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีสาคร ในความผิดเกี่ยวกับกฎหมายป่าไม้ โดยในชั้นการสอบสวน มีข้าราชการท้องถิ่นในพื้นที่คนหนึ่ง ให้การรับรองว่า ที่ดินบริเวณนี้มีเอกสารสิทธิ นส.3 ก. จึงเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดิน ในการตัดและเคลื่อนย้ายไม้ได้
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 16-17 พ.ค.2564 กลับพบการตัดไม้ในบริเวณดังกล่าวซ้ำอีก เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน พร้อมยึดรถแทรกเตอร์ รถตีนตะขาบ รถยนต์กระบะ รถแบ็คโฮ และอุปกรณ์ตัดไม้อีกหลายรายการ และได้แจ้งความดำเนินคดี
ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก. ว่า เป็นเอกสารถูกต้องหรือไม่ และจุดเกิดเหตุตรงกับเอกสารสิทธิ์ที่ถืออยู่หรือไม่ และหากเป็นเอกสารสิทธิ์จริง ก็จะต้องตรวจสอบต่อว่า ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสมบูรณ์
ด้านสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 ปัตตานี อยู่ระหว่างการทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อให้สำนักฟื้นฟูพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ อ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ตามค่าพิกัดในที่ดิน ที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
เนื่องจากเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่มีผลอาสิน หรือร่องรอยการทำประโยชน์ และมีการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ามาดำเนินการ โดยมีลักษณะการทำเป็นขบวนการ และอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ไม้ยวนเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดค้าไม้มากขึ้น ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพื่อไปนำทำไม้ปาร์เก้ หรือ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ และการเข้าบังคับใช้กฎหมาย โดยมีการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ทำให้คนกลุ่มนี้อาจจะเข้ามาลักลอบตัดไม้