คนร้ายยิงทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย และทำให้บาดเจ็บอีก 3 นาย ในการโจมตีเจ้าหน้าที่ กองร้อย ทหารพรานที่ 4513 ในพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ในวันนี้จันทร์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบปักหมุดหมายการปะทุของเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ครบรอบ 18 ปี ในวันพรุ่งนี้ และกดดันทางการไทยหลังจากที่มีรายว่าทั้งสองฝ่ายมีแผนเจรจากันในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในต้นปีนี้
เหตุรุนแรงครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 13 เป็นอย่างน้อย หลังจากที่เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา แหล่งข่าวในประเทศมาเลเซียที่ใกล้ชิดกับการกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข และนายรักชาติ สุวรรณ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ได้กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า คณะพูดคุยเพื่อสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่คาดว่าจะพบปะกันในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 11 มกราคม นี้
พ.ต.อ. ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก. สภ.ระแงะ กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้เปิดฉากยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ปฏิบัติหน้าที่ตรงด่านตรวจบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ. 4513 บนถนนสายบองอ–ดุซงญอ ในบ้านลาแป ม.2 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 12.45 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้เป็นเวลาราวครึ่งชั่วโมงก่อนที่คนร้ายหลบหนีไปได้
“ได้มีคนร้ายจำนวนประมาณ 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ โดยแยกออกเป็น 2 ชุด ซึ่งชุดที่หนึ่งแอบแฝงตัวเดินลัดเลาะมาจากด้านหลังของฐาน และชุดที่สองแอบลัดเลาะเดินย่องมาจากป่าฝั่งตรงข้ามของฐาน เมื่อสบโอกาสคนร้ายทั้งสองชุด ได้ใช้อาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 6 นาย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านจุดตรวจหน้าฐาน จนทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกัน” พ.ต.อ. ปิยภัทร กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลระแงะ 1 นาย ส่วนประเด็นและสาเหตุ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ครบรอบ 18 ปี” พ.ต.อ. ปิยภัทร กล่าวเพิ่มเติม
พ.ต.อ. ปิยภัทร ระบุผู้เสียชีวิต คือ ส.ต. เอกชัย มูเก็ม ถูกยิงอาการสาหัสก่อนสิ้นที่โรงพยาบาลระแงะ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ อส.ทพ. มงคล อัญยะประเสริฐ ได้รับบาดเจ็บบริเวณฝ่ามือขวา และ อส.ทพ. นันทวัฒน์ ทองใหญ่ กระสุนถูกบริเวณหัวเข่าซ้ายทะลุ
ทั้งนี้ ในวันส่งท้ายปีเก่า ได้เกิดเหตุระเบิดรวม 6 จุด ในอำเภอเมือง อำเภอบันนังสตา และอำเภอกรงปีนัง ในจังหวัดยะลา จนสร้างความโกลาหลให้กับพื้นที่ โดยในวันถัดมาซึ่งเป็นปีใหม่ เฟซบุ๊คเพจ BRN Barisan Revolusi National ซึ่งเป็นแนวร่วมของขบวนการบีอาร์เอ็น ได้โพสต์ข้อยอมความรับว่า BRN เป็นผู้ลงมือวางระเบิด
“ศักยภาพยังมั่นคง, 31 ธ.ค. 64 ทดลองปฏิบัติการเพื่อเช็คศักยภาพงานข่าวของกองกำลังผู้ยึดครองปาตานี นักรบชุดใหม่ถือว่าผ่านในการลงสนามครั้งแรก” เฟซบุ๊คเพจดังกล่าว ระบุ
นายรักชาติ สุวรรณ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีข่าวการพูดคุย ก็จะมีการแสดงศักยภาพแบบนี้ออกมาเสมอ ซึ่ง BRN มีกลุ่มย่อยลงไปอีก
“อาจจะเป็นกลุ่มในพื้นที่ที่พยายามแสดงให้เห็นว่า BRN ที่ขึ้นโต๊ะพูดคุยไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมดก็เป็นได้เหมือนกัน หรืออาจจะเป็นกองกำลังรุ่นใหม่ ๆ ที่พยายามแสดงศักยภาพ ในช่วงเวลาใกล้การพูดคุย ก็เป็นได้เหมือนกันครับ” นายรักชาติ กล่าวกับเบนาร์นิวส์
“ในเรื่องการพูดคุยจะมีการคุยในเรื่องของการลดความรุนแรงหรือไม่ หรือจะลดแบบไหน น่าสนใจเหมือนกันครับ เพราะหากมีการพูดคุยหาข้อตกลงได้จริง การพูดคุยเพื่อสันติสุขหรือสันติภาพ ก็ก้าวหน้ามากครับ” นายรักชาติ กล่าวเพิ่มเติม
ตำรวจระบุบีอาร์เอ็นป่วนเมืองกดดันไทยเจรจา
และในเช้าวันจันทร์นี้ พล.ต.ต. ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องไว้กับเสาไฟฟ้าในอำเภอรามัน จังหวัดยะลา และระบุว่าบีอาร์เอ็นเป็นผู้วางระเบิดในห้วงเวลาที่ผ่านมาเพื่อแสดงศักยภาพและกดดันฝ่ายไทยร่วมเจรจา
“เบื้องต้นทราบตัวคนร้ายแล้วเป็น BRN ที่มีการวางสายงาน โดยมีกลุ่มที่ผลิตระเบิด กลุ่มที่เอามาวาง กลุ่มที่มอนิเตอร์สถานการณ์ ก็จะมีกลุ่มที่ชัดเจนในการปฏิบัติการในครั้งนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนที่จะออกหมาย และนำมาดำเนินคดีต่อไป” พล.ต.ต. ทินกร กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“ส่วนเหตุปัจจัยในการสร้างสถานการณ์ขึ้น คนร้ายต้องการแสดงศักยภาพว่าขบวนการ BRN ยังมีตัวตนอยู่ยังอยู่ในพื้นที่ ยังมีในพื้นที่ และแสดงเชิงสัญลักษณ์ให้มีการพูดคุยสันติสุขในจังหวัดชายแดนต่อไปในเดือนนี้” พล.ต.ต. ทินกร กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในตอนเช้าวันจันทร์นี้ คนร้ายได้ผูกระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิงไว้กับเสาไฟฟ้า ข้างถนนทางหลวงหมายเลข 4066 ในพื้นที่บ้านมะดือลง ม.2 ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา แต่เจ้าหน้าที่กู้ไว้ได้ พล.ต.ต. ทินกร ระบุว่าเป็นระเบิดชนิดเดียวกันที่คนร้ายวางโดยใช้การจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาแบบเร่งด่วน เช่นเดียวกับเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ที่เฟซบุ๊คเพจ BRN Barisan Revolusi National ระบุถึง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น ในวันที่ 29 ธ.ค. 2564 เกิดเหตุระเบิดทหารพรานบาดเจ็บ 2 นาย ในอำเภอยะรัง ปัตตานี และเกิดเหตุวางระเบิดฐานเจ้าหน้าที่ใกล้สถานีรถไฟรือเสาะ นราธิวาส, วันที่ 28 ธ.ค. เกิดเหตุปาไปป์บอมบ์ใส่บ้านอดีตภรรยาของตำรวจตระเวณชายแดน ริมถนนนราธิวาส–ปัตตานี ในอำเภอยะหริ่ง ปัตตานี
27 ธ.ค. เกิดเหตุวางระเบิดถนนสองจุดในอำเภอจะแนะ นราธิวาส มีการแขวนป้าย “เขตปลอดสายลับสยามในรูปแบบไทยพุทธยิงหมูป่า” และ “คำเตือนกองกำลังติดอาวุธที่จัดตั้งโดยรัฐสยาม ที่มาในคราบชาวบ้านหาของป่า”, วันที่ 26 ธ.ค. เกิดเหตุระเบิดถนน ในอำเภอจะแนะ นราธิวาส และเหตุคนร้ายใช้ปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย ที่อำเภอสายบุรี ปัตตานี ผู้เสียชีวิตชื่อ นายอับดุลเลาะ วาเลาะ
และ วันที่ 24 ธ.ค. เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปิดล้อมแหล่งซุกซ่อนในตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง ปัตตานี จนมีการปะทะกัน แล้วฝ่ายผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 2 ราย คือ นายอาดีนันท์ ซือรี อายุ 28 ปี และ นายซาการียา ยูโซะ อายุ 29 ปี ซึ่งพบประวัติว่าเคยก่อเหตุในอดีต
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 คนร้ายได้ปล้นอาวุธปืนของกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ค่ายปิเหล็ง) ในตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาสไปกว่าสี่ร้อยกระบอก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติการเพื่อแบ่งแยกดินแดนครั้งใหม่ของขบวนการก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่มี BRN เป็นกลุ่มที่มีกำลังมากที่สุด
จากฐานข้อมูลศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 7,300 คน นับถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564
