ข่าวสังคมออนไลน์ภาคใต้ตอนล่าง...ผลักดันหาดใหญ่ เมืองท่องเที่ยว'ปลอดภาษี'

@ พิษสงของ “โควิด-19” และ ราคายางที่ตกต่ำ ทำให้เทศกาล “ตรุษจีน” ปีนี้ ในพื้นที่ทุกจังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง เป็นไปด้วยความเงียบเชียบ เป็นบรรยากาศที่ไม่ใช่ “สงบ” แต่เป็นความ “สงัด” โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ ถนนสาย 1 สาย 2 กลายเป็น “เมืองร้าง” อย่างน่าใจหาย…บรรทัดนี้จึงเห็นด้วยกับ ดร.กิตติ เรืองเริงกุลฤทธิ์ ปลัดเทศบาลนครหาดใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ที่กำลังผลักดันแผนงานให้ หาดใหญ่ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ “ปลอดภาษี” เพื่อเป็นแรง “จูงใจ” ให้ผู้คนเข้ามา เพื่อซื้อสินค้า และท่องเที่ยว โดยทำหนังสือถึง พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) เป็นผู้ผลักดันอีกทางหนึ่ง…และหลังการเลือกตั้งในระดับเทศบาล ได้นายกเทศบาลเข้ามาทำหน้าที่สมบูรณ์ คงจะได้เห็นการ “ขับเคลื่อน” เพื่อ “ชุบชีวิต” ของ “นครหาดใหญ่ –สงขลา ให้มี “ชีวา” ขึ้นอีกครั้ง

…ซึ่งวันนี้ ผู้ที่ “อาสา” ลงสมัครในตำแหน่ง “ว่าที่นายกเทศมนตรี เทศบาลนครหาดใหญ่” ที่มี “ชื่อชั้น” ให้ คนหาดใหญ่ ตัดสินใจ กาบัตร ในวันที่ 28 มีนาคม 2564 มีทั้ง ดร.ไพร พัฒโน อดีตนายก ณรงค์พร ณ พัทลุง อดีตปลัดจังหวัด อดีตนายอำเภอหาดใหญ่ และ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีต ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว และ อดีต ผกก.สภ.หาดใหญ่ ไพร พัฒโน ทำหน้าที่ “นายกฯ” มาแล้ว 3 สมัย คนหาดใหญ่ เห็นกันหมดแล้วว่า “วิสัยทัศน์” ของการบริหารเป็นอย่างไร ส่วนคู่แข่งทั้ง 2 คน ถึงจะยังไม่เคยทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง แต่ในฐานะที่เป็นคนหาดใหญ่ทั้งคู่ และเคยรับราชการเป็น “นายอำเภอ” และเป็น “ผู้กำกับ” มาแล้ว เชื่อว่า คนหาดใหญ่ จะตัดสินใจได้ว่า จะ “เปลี่ยน” คนใหม่ หรือจะเลือก “หน้าเดิม”….

@ ติดตามบทบาทของ ภาณุ อุทัยรัตน์ ในการทำหน้าที่ สมาชิกรัฐสภา มาตั้งแต่เริ่มต้น เห็นถึงความ “จริงจัง” กับการติดตามปัญหาความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านที่ “ปลายด้ามขวาน” ฝากชื่นชมมา….พื้นที่ชายแดน ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา นอกจากเป็นทางผ่าน “ของเถื่อน” จากประเทศมาเลเซีย ที่ทำให้ประเทศสูญเสียภาษีแล้ว เรื่องของ “ยาเสพติด” ในส่วนของ “ผู้ค้า” และ “ผู้เสพ” ยังเป็นเรื่องใหญ่ ที่ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ ภิรมย์รักษ์ ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ต้องวางแผน “ติวเข้ม” เรื่องนี้ให้จริงจังกว่าที่เป็นอยู่….

@ นี่ก็มีชาวบ้านร้องกันมา ว่าจะ “มอเมา” กันไปถึงไหน เมืองเล็กๆอย่าง อ.ท่าแพ จ.สตูล แต่มีเจ้ามือหวยเถื่อนรายใหญ่ ชื่อ “เจ๊ ป.” ที่ขายสารพัดหวย แบบไม่สนใจกฎหมาย ห่างจากที่ตั้งโรงพักแค่ 200 เมตร ส่วนอีก 2 ราย อยู่แถวซอยทุ่งริ้น และ ข้างโรงไม้ ชาวบ้านทนเห็นไม่ไหว ขอให้ พ.ต.อ.จักรแก้ว คงสมยศ ผกก.ท่าแพ ออกจากห้องทำงาน มาดูว่าจริงหรือไม่ หรือจะให้ชาวบ้านร้องไปที่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภูสาระ ผบช.ภ.9 ก่อนแล้วค่อยดำเนินการก็แล้วแต่….

@ นี่ก็เป็นเรื่องที่ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีร้องกันมา เรื่องของ “สายไฟฟ้า” ที่ถูกปล่อยให้ตกห้อยระโยงระยาง ในถนนหลายสาย นอกจากเป็น “ทัศนะอุจาด” แล้ว อาจจะเป็น “อันตราย” กับประชาชนด้วย….

@ ตั้งแต่ หม่า เฟิ่ง ชุน มารับหน้าที่ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา ดูแลพื้นที่ภาคใต้ เห็นการทำหน้าที่ ประสานประโยชน์ ระหว่างองค์กรของรัฐและเอกชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นอกจากการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว ยังเป็นการเพิ่มช่องทางของการ “สื่อสาร” ให้สังคมได้รับรู้ในสิ่งที่ดีๆ ของทั้ง จีน-ไทย อีกด้วย….

@ แม้จะมีการระบาดของ “โควิด-19” แต่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ก็ยังเป็นที่ท่องเที่ยว “ยอดนิยม” ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ “สกายวอล์ก” เพื่อชมทะเลหมอก ตรุษจีน นี้ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ยะลา จึงสั่งการให้ตำรวจดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเต็มที่ สำหรับพื้นที่ “อัยเยอร์เวง” ไม่น่าหนักใจ เพราะได้ พ.ต.อ.วงศกร เหมือนเขียว ผกก.สภ.อัยเยอร์เวง ที่ จริงจังกับการดูแลพื้นที่อย่าง “เกาะติด” แถมยังเป็น นายตำรวจ ที่มี “มวลชน” ให้ความเชื่อมั่น…. จากพื้นที่ “สีแดง” วันนี้ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส กลายเป็นพื้นที่มีความสงบค่อนข้างสูง และมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ เศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอ สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่เป็นนายอำเภอ “ติดดิน” ทำให้ได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการพัฒนาพื้นที่….

@ ที่วันก่อนไปนั่งฟังการประชุม คณะกรรมการคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ที่โรงแรม “ปาร์ควิว” จ.ปัตตานี เห็นกรรมการแต่ละคน “จริงจัง” กับการทำแผน “พูดคุยสันติสุข” ในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหา “ไฟใต้” และ ตอบโจทย์ตรงประเด็นหลายท่าน ที่เห็นว่า “ไฟใต้” มาจากขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น การดับ “ไฟใต้” จึงต้องดับ “บีอาร์เอ็น” เป็นประการสำคัญ ทำให้พอเห็นลางๆ ว่า พวกคุณเดินมาถูกทางแล้ว..และได้ฟัง พล.ต.ธิรา แดหวา รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ผอ.ศูนย์สันติวิธี กอ.รมน.ภาค 4 ให้แนวทางกับ คณะของ “สล.3” เพื่อนำไปปฏิบัติการที่สั้นๆ กระชับ รู้เรื่อง ก็พอที่จะเห็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” ได้บ้าง เพราะที่ผ่านมา ที่การแก้ปัญหาของ “ไฟใต้” ไปไม่ถึง “ปลายทาง” เนื่องจาก “ผู้นำ” ในกองทัพ ห้ามพูดถึงเรื่อง “บีอาร์เอ็น” และเชื่อว่า “บีอาร์เอ็น” ไม่มี มีแต่เรื่อง “ภัยแทรกซ้อน” เรื่อง “โจรกิ๊กก๊อก” ดังนั้น 17 ปีที่ผ่านมา การดับ “ไฟใต้” จึงกลายเป็นเรื่อง “กิ๊กก๊อก” มาโดยตลอด…

@ แต่เรื่องใหญ่ของ “ไฟใต้” ที่ กอ.รมน.ต้องแก้ไขคือ เรื่องของการศึกษาที่มีการแบ่งแยก นักเรียน “พุทธ” กับ “มุสลิม” ออกจากกัน ตั้งแต่ชั้นเด็กเล็กจนถึงอุดมศึกษา นี่คือการ “แบ่งแยก” ที่ทำลาย สังคม ทำลาย “พหุวัฒนธรรม” จนกลายเป็น “ช่องว่าง” ของคนที่นับถือศาสนาต่างกัน ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ “ล้มเหลว” มาโดยตลอด วันนี้มีการจัดตั้ง กระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า มีการฟื้นตำแหน่งศึกษาธิการเขต ศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด ย้อยรอบกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน มีคนในกระทรวงศึกษาได้ตำแหน่งใหญ่โต แต่ปัญหาของการศึกษา ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยิ่งเพิ่มขึ้นและยิ่ง “หลงทาง” รวมทั้ง วันนี้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาหลายแห่งในหลายพื้นที่ ก็ยังมีการ “กินหัวคิว” นักเรียน และหลายแห่งก็ยังเป็นที่ “บ่มเพาะ” ในสิ่งที่ผิดๆ เรื่องเหล่านี้ เชื่อว่าทั้ง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ต.ธิรา แดหวา รู้ดีกว่าใครเพื่อน ก็ได้แต่หวังว่า จะมี กุศโลบาย ในการแก้ปัญหาที่เป็น “รากเหง้า” ของ “ไฟใต้” ให้ได้ในยุคนี้….

@ ผลปาล์มมีราคาแพง ชาวสวนปาล์มพอใจ แต่น้ำมันปาล์ม ที่ทุกครัวเรือนต้องใช้ มีการขึ้นราคาไปแล้วลิตรละ 5 บาท โดยที่ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า สร้างความเดือดร้อนให้กับทุกครัวเรือน เรื่องนี้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพาณิชย์ ต้องแก้ไขโดยเร็ว การปล่อยให้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม มีความสุขกับราคาปาล์มที่รัฐจ่ายเงินชดเชย แต่สร้างความทุกข์ให้กับทุกครัวเรือนที่ต้องบริโภคน้ำมันปาล์ม เข้าตำรา “ถั่วสุกงาไหม้” ที่ถูกมองว่า นักการเมือง ทำงานไม่เป็น….พบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ

This image is not belong to us

ดอกไม้เหล็ก…. พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เยี่ยมชมการฝึกทบทวนของทหารพรานหญิง รุ่นที่ 1/2564 ที่ศูนย์ฝึกยุทธวิธี ค่ายมหาจักรีสิรินธร อ.นาทวี จ.สงขลา