ก.ค.ศ.ไฟเขียว เกณฑ์เฟ้นผอ.-รองสช.5จังหวัดชายแดนใต้
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ รองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษรใหม่ของก.ค.ศ. ประกอบกับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกฯ ที่กำหนดไว้เดิม ได้ประกาศใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ซึ่งไม่สอดคล้องกับบริบทต่าง ๆ ปัจจุบัน ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น เพื่อให้ได้ผู้บริหารที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะทางการบริหารที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษา รวมทั้งเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับพื้นที่และคงความเป็นอัตลักษณ์ของเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ไว้ จึงได้ปรับหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังกล่าว
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า สาระสำคัญของหลักเกณฑ์การคัดเลือก กำหนดเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทั่วไป คุณสมบัติ 1.ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดศธ. และต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งเดียวกันกับตำแหน่งที่สมัคร เข้ารับการคัดเลือก 2.มีคุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานตำแหน่งฯ ที่ ก.ค.ศ. กลุ่มประสบการณ์ คุณสมบัติ กำหนดเช่นเดียวกับข้อ 1 และข้อ 2 ของกลุ่มทั่วไปนอกจากคุณสมบัติตามข้อ 1 และข้อ 2 แล้ว จะต้องเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน หรือเคย ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่สมัครเข้ารับการคัดเลือก หรือเป็นผู้ปฏิบัติงาน หรือเคยปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับ งานการศึกษาเอกชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือรวมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
“ส่วนการบรรจุและแต่งตั้ง ให้บรรจุและแต่งตั้งตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัคร เมื่อบรรจุครบตามจำนวนตำแหน่งว่างแล้ว หากมีตำแหน่งว่างภายหลังให้บรรจุและแต่งตั้ง โดยเริ่มจากบัญชีกลุ่มประสบการณ์ก่อนแล้วสลับกลุ่มต่อเนื่องกันไป การพัฒนาผู้ได้รับการบรรจุให้เป็นไปตามที่ส่วนราชการกำหนด โดยความเห็นชอบ อ.ก.ค.ศ. สป. ซึ่งผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ต้องได้รับการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่
เพื่อพัฒนาการศึกษาเป็นระยะเวลา 1 ปี และมีเงื่อนไขว่า ผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรง และมีผลการประเมินสัมฤทธิผล ทั้ง 2 ครั้ง ผ่านเกณฑ์ ต้องอยู่ปฏิบัติงานในหน้าที่ ในตำแหน่งที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ต่อไปอีกเป็นเวลา 3 ปี นับแต่วันที่มีผลการประเมินสัมฤทธิผลผ่านเกณฑ์ เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จึงจะเปลี่ยนตำแหน่ง ย้าย หรือโอนออกนอกเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ได้ ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือกทั้ง 2 กลุ่มให้เลือกสมัครได้เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หากปรากฏว่าผู้สมัคร สมัครทั้ง 2 กลุ่ม จะตัดสิทธิ์การสมัครคัดเลือกทั้งหมด โดยผู้สมัครฯ ที่ปฏิบัติงานในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉพาะจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา อำเภอจะนะ อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอเทพา และอำเภอนาทวีให้นับระยะเวลาทวีคูณในการคำนวณระยะเวลาการดำรงตำแหน่งได้ และสำหรับการขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก ให้ขึ้นบัญชีเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทั่วไป และกลุ่มประสบการณ์”น.ส.ตรีนุชกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่