ปัตตานี ยังหนัก พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 51 คน รวมสะสมทั้งจังหวัด 154 ราย “พ่อเมือง” เร่งประชุมหน่วยงานมั่นคง กำหนดมาตรการคำสั่งและประกาศจังหวัด เพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในการปฏิบัติตน
วันที่ 3 พ.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี วันนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนน่าเป็นห่วง ส่งผลให้ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 51 คน ผู้ป่วยสะสมรวม 154 คน นอนรักษาตัว รพ.ปัตตานี 23 คน, รพ.สนาม 73 คน, รพ.ค่าย 1 คน, และอยู่ระหว่างการพิจารณา Admit 50 คน และผู้ป่วยที่หายแล้ว จำนวน 6 คน ขณะที่คนไทยกลับจากประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันถูกกักตัว 327 คน กักตัวสะสม 605 คน โดยที่อำเภอเมืองมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดที่ 100 คน
นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในการประชุมประเมินสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดปัตตานี โดยมี นายสมนึก พรหมเขียว ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ปลัดจังหวัดปัตตานี นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพญาตานี ศาลากลางจังหวัดปัตตานี โดยมีการรายงานสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดปัตตานี พร้อมทั้งซักซ้อมการปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการคำสั่งและประกาศจังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในการปฏิบัติตน
โดยผู้ว่าฯ ปัตตานี ได้เน้นย้ำไปยังอำเภอทุกอำเภอให้ดำเนินการตรวจคัดกรองบุคคลเข้าออกภายในพื้นที่ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุก กำหนดมาตรการควบคุมการระบาดของโรคให้เข้มข้นกว่าเดิม เพื่อมิให้เหตุการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทวีความร้ายแรงมากขึ้น และให้สามารถยุติลงได้โดยเร็ว ที่ประชุมมีมติคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่ต้องกำหนดมาตรการเข้มข้นยิ่งขึ้น ดังนี้
1.บุคคลเข้ามาปัตตานีจากทุกจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงจะต้องรายงานตัวกับ จนท.ด่านตรวจ ทุกคน 2.ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากเคหสถานหรือที่พำนัก ตั้งแต่ 22.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น 3.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.
4.ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่ายี่สิบคน (20 คน) เว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่
5.ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น. 6.ให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต โดยให้ปิดสถานที่ดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น 7.ขอความร่วมมือดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วยการงดปฏิบัติศาสนกิจและกิจกรรมในเดือนรอมฎอนที่มัสยิด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป.