“อันวาร์”เชื่อผู้มีอำนาจบ่งการใช้เสียงข้างมากทำเพื่อพวกพ้องตนเอง ไม่สนใจปชช.จ่อชงแนวคิดแก้ทำผิดให้ถูก

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2564 นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้เคยพูดถึงกรณีสภาฯ มีมติเสียงข้างมาก 366 : 316 ให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตีความว่าสภาฯมีอํานาจแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ โดยไม่คํานึงว่าประชาชนจะรู้สึกสับสน และผิดหวังกับการกระทำของส.ส.ที่กลับไป กลับมาเพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้เสนอให้แกไ้ขรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น แต่กลับร่วมมือกับส.ว.แต่งตั้ง ซึ่งทําให้ภาพพจน์สภาฯหมดความน่าเชื่อถือ ปัญหาของการเมืองในระบอบประชาธิปไตยใช้เสียงข้างมากที่ต้องการใช้สภาฯเป็นเครื่องมือให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับที่1ถึงฉบับล่าสุดผ่านมาแล้วถึง20ฉบับก็ยังไม่มี การแก้ไข เพราะผู้ร่างฯไม่ใช่นักประชาธิปไตย จึงไม่แน่ใจว่าสะกดคําว่า ประชาธิปไตยถูกหรือไม่ ปัญหาจึงเกิดซํ้าแล้ว ซํ้าเล่า

“ล่าสุดก็ยังมีความพยายามที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ญัตติไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านเสนอมานั้น จะละเมิดสถาบันหรือ ไม่ หรือพูดง่ายๆคือต้องการล้มญัตติ ซึ่งผมไม่ทราบว่าผู้เสนอญัตตินั้น ยังมีสถานะเป็น ส.ส. หรือไม่ ผมพิจารณาปัญหาว่าสิ่งที่จําเป็นต้องแก้คือ เรื่องของระบบเสียงข้างมากทั้งในสภาฯและภายในพรรคเพราะ หากปล่อยให้เสียงข้างมากเป็นไปตามคําบงการของผู้มีอํานาจที่อยากได้มาซึ่งประโยชน์สําหรับตนเองและพวกพ้องโดยไม่สนใจประชาชนว่า จะมีความรู้สึกอย่างไร และอาจจะไปกระตุ้นกลุ่มผู้เคลื่อนไหวนอกสภาฯที่กําลังต่อต้านและเรียกร้องขอคําตอบจากรัฐบาลอยู่บานปลายมากขึ้นจนอาจควบคุมไม่ได้เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งบัดนี้ม็อบลุกลามไปทุกอาชีพ ซึ่งรัฐบาลคงไม่อยากจะให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะท่านนายกฯเคยประกาศชัด หลังการปฏิวัติว่าขอให้ประชาชนช่วยกันคิดหาวิธี ทําอย่างไรไม่ให้ทหารออกมาปฏิวัติอีกโดยขอให้ 22 พ.ค. 2557 เป็นครั้ง สุดท้าย. ซึ่งในวันที่ 15 ก.พ. 2564 ในที่ประชุมพรรค ผมจะเสนอแนวคิดแก้ไขในเรื่องนี้ด้วยการเสนอให้พรรคพิจารณาแก้ปัญหาเรื่องมติเสียงข้างมากในสภาฯ รวมถึงเสียงข้างมากในพรรค โดยยึดหลักการทําให้สิ่งถูกให้เป็นถูก ผิดใหเ้ป็นผิด โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น” นายอันวาร์ กล่าว