วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2025
  • Login
ปัตตานี
  • ปัตตานี
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • ปัตตานี
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
ปัตตานี
No Result
View All Result
Home ข่าว

พิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน : พหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนใต้

ปัตตานี by ปัตตานี
3 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 2min read
158
0
100
SHARES
199
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

เขียนวันที่

วันอาทิตย์ ที่ 31 กรกฎาคม 2565 เวลา 11:52 น.

310722 mongkol1

“…หนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ คือติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน ที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส โดยเราได้รับการปูพื้นฐานความเป็นมาของพื้นที่ภูมิภาคนี้ด้วยการฟังบรรยายที่พิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส ทำให้รู้ว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งทราบกันว่ามีชาวมุสลิมอยู่กันเป็นจำนวนมากนั้น ชาวพุทธและชาวจีนโพ้นทะเลซึ่งต่อมาได้กลายเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนก็ได้ตั้งรกรากอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาเนิ่นนานพอสมควรเช่นกัน ก่อเกิดเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมอันหลากหลาย และอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข…”


พิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาสใกล้ความจริง เป้าหมายเปิดใช้ปลายปีหน้าสู่ความเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของศาสนาอิสลามอีกแห่งหนึ่ง ตัวเชื่อมการท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้พหุวัฒนธรรม

เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีโอกาสได้ติดตาม ดร. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ด้านประสานการมีส่วนร่วม เพื่อไปศึกษาเส้นทางที่จะนำบรรดาทูตสตรีประจำประเทศไทย ไปเยี่ยมชมเส้นทางท่องเที่ยวพหุวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส ปัตตานีและสงขลา ที่มีแผนว่าจะจัดขึ้นในช่วงกันยายน-ตุลาคมที่จะถึงนี้

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ คือติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน ที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส โดยเราได้รับการปูพื้นฐานความเป็นมาของพื้นที่ภูมิภาคนี้ด้วยการฟังบรรยายที่พิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส ทำให้รู้ว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งทราบกันว่ามีชาวมุสลิมอยู่กันเป็นจำนวนมากนั้น ชาวพุทธและชาวจีนโพ้นทะเลซึ่งต่อมาได้กลายเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนก็ได้ตั้งรกรากอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาเนิ่นนานพอสมควรเช่นกัน ก่อเกิดเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมอันหลากหลาย และอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

310722 mongkol2

พอเดินทางถึงพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน ในอำเภอยี่งอจังหวัดนราธิวาส ที่อยู่ติดกับโรงเรียนประสานมิตรวิทยา ก็ได้เห็นการก่อสร้างโครงสร้างภายนอกเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นโครงสร้างอาคารแบบไทยท้องถิ่นใต้ ผสมกับลวดลายศิลปะมุสลิม ส่วนที่เหลือก็คือการตกแต่งภายใน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างแจ้งว่าในราวปลายปี 2023 ก็จะสามารถให้บริการเปิดเข้าชมได้อย่างเป็นทางการ

สำหรับส่วนบริการหลักๆ ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นอกจากส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญคือห้องเก็บคำภีร์อัลกุรอานโบราณ ที่จะจัดเก็บอยู่ในตู้กระจกนิรภัยแล้ว ยังมีส่วนเสริมอื่นๆ เช่นนิทรรศการแนะนำวิธีการบูรณะซ่อมแซมคัมภีร์โบราณ ซึ่งช่างที่ทำการซ่อมแซมจะต้องผ่านการฝึกมาอย่างดีได้รับการรับรองจากกรมศิลปากร เนื่องจากจะต้องเข้าใจถึงวัสดุที่แตกต่างกันของคัมภีร์อัลกุรอานแต่ละประเภท ไม่ว่าชนิดเปลือกไม้ กระดาษไปจนถึงหนังสัตว์

ส่วนรองลงมาก็จะเป็นห้องจัดแสดงหนังสือและตำราโบราณอื่นๆ ห้องการเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น ห้องจัดแสดงอุปกรณ์และเทคโนโลยีโบราณ ต่อมาเป็นห้องละหมาดที่แบ่งออกเป็นชายหญิง และสิ่งที่มีครบครันคือ ระบบลิฟต์และทางลาดสำหรับผู้พิการใช้ล้อเข็น ตามหลักอารยสถาปัตย์

310722 mongkol3

ในส่วนของตัวคัมภีร์อัลกุรอานโบราณ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั้น เป็นที่ทราบกันว่าคัมภีร์อัลกุรอานมีความสำคัญเป็นศาสนสมบัติของชาวมุสลิมไม่แตกต่างจากคัมภีร์ไบเบิลของชาวคริสต์ หรือพระไตรปิฎกของชาวพุทธ แต่คัมภีร์โบราณของที่นี่ยังมีความสำคัญเหนือยิ่งกว่าความเป็นศาสนสมบัติทั่วไป

จากคำบอกเล่าของ นายมูฮัมหมัดนุทรี หะยีสาแม ประธานมูลนิธิพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน Lutfi Haji Samae, the president of the museum และ นางฮัสซามี สาและ กรรมการบริหารโรงเรียน สมานมิตรวิทยาโรงเรียน ทำให้รู้ถึงที่มาของการรวบรวมคัมภีร์อัลกุรอานโบราณที่ ปัจจุบันรวบรวมได้ 79 เล่มว่า เกิดขึ้นจากความศรัทธาของศาสนิกอย่างแท้จริง

310722 mongkol4 

โดยจุดเริ่มต้นที่เป็นที่รู้จักของคัมภีร์อัลกุรการโบราณที่คัดด้วยมือนี้ เกิดจากมีเศรษฐีชาวมาเลเซียมาบริจาคสร้างศูนย์การเรียนรู้และมอบคัมภีร์อัลกุรอานโบราณเล่มแรก มีการจัดสัมมนาทางวิชาการ และจากรายงานข่าวของ ศูนย์ข่าว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักข่าว “อิศรา” และทำให้ กรมศิลปากรเขตที่ 13 ที่สงขลาทราบข่าว จึงอยากจะมาขอช่วยอนุรักษ์ให้ถูกวิธี ซึ่งต่อมานักสิทธิมนุษยชนจากประเทศตุรกีที่มาเยี่ยมผู้เสียหายจากเหตุการณ์สึนามิ ได้มาพบเห็น จนสนับสนุนให้มีการบูรณะซ่อมบำรุง

“พอรัฐบาลไทยเปิดโอกาสให้ประเทศตุรกีมาซ่อมบูรณะร่วมกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและหอจดหมายเหตุของไทย จากนั้นผู้ที่ครอบครองอัลกุรอานโบราณเห็นเข้า ต่างก็พากันนำมามอบหมายให้ดูแล เพื่อให้เกิดการซ่อมแซม ทำปกใหม่อย่างสวยงาม และให้รวบรวมที่ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้”

“ภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ในอดีตเป็นเมืองท่าใหญ่ มีการเดินทางติดต่อค้าขายกันระหว่างอาณาจักรอยุธยา ศรีวิชัย ลังกาสุกะ นูซันดารา ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นเส้นทางเดินทางของนักเดินเรือชาวอียิปต์ เยเมน เปอร์เซีย ก่อนไปยังประเทศจีนก็จะแวะที่เมืองท่าแห่งนี้ แม้แต่ในสมัยออตโตมานตุรกีก็ยังมีการบันทึก เกี่ยวกับภาคใต้ของประเทศไทย”

“คัมภีร์อัลกุรอานที่นี่แบ่งออกเป็น 8 กลุ่มตามที่มา กลุ่มแรกคือมาจากมาเลย์นูซันดาราหรืออาเซี่ยน กลุ่มที่ 2 มาจากอินเดีย กลุ่มที่ 3 มาจากประเทศจีน กลุ่มที่ 4 มาจากเปอร์เซีย กลุ่มที่ 5 มาจากอียิปต์ เยเมน กลุ่มที่ 6 มาจากสเปน Morocco กลุ่มที่ 7 มาจาก อียิปต์ แอฟริกา และกลุ่มที่ 8 มาจากอุซเบกิสถาน”

อายุของคัมภีร์อัลกุรอานโบราณที่อยู่ที่นี่ มีความเก่าแก่ตั้งแต่ 150 ปีถึง 1,100 ปี โดยดูได้จากวัสดุที่ใช้ทำคัมภีร์ตั้งแต่ยุคที่เป็นหนังแพะยังไม่มีกระดาษ อายุมากกว่า 600 ปีขึ้นไป จนมาเป็นกระดาษที่ทำจากเปลือกไม้ เช่นกระดาษปาปิรุส ขึ้นมาถึงกระดาษที่นำเข้าจากยุโรปในศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะจากประเทศอิตาลี นอกจากวัสดุที่แตกต่างกันแล้ว ตัวอักษรและลวดลายประกอบก็บ่งชี้ถึงที่มาและอายุของคัมภีร์อัลกุรอานแต่ละเล่มเช่นเดียวกัน

310722 mongkol5

สิ่งเหล่านี้ย่อมบ่งชี้ถึงความรุ่งเรืองและความเป็นศูนย์กลางการไปมาหาสู่กันของชาวมุสลิมในดินแดนภาคใต้มาอย่างยาวนาน เห็นถึงคุณค่าทางศาสนา ประวัติศาสตร์ อักษรศาสตร์ และศิลปศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องมากับคัมภีร์อัลกุรอานโบราณทั้ง 79 เล่ม ซึ่งเปรียบเสมือนแผนที่ทางวัฒนธรรมที่พาผู้ชมย้อนเวลาไปยังอาณาจักรต่างๆ ในโลกมุสลิม และในอนาคตพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกรุอานและมรดกวัฒนธรรมอิสลามอีกด้วย

“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีผู้มาเยี่ยมชมศึกษานับได้ 160,000 กว่าคนและเชื่อว่าเมื่อประเทศไทยฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบีย ก็จะมีนักท่องเที่ยวจากดินแดนอาหรับมาเยี่ยมชมเพิ่มมากขึ้น” ผู้ดูแลศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอานโบราณให้ข้อมูล

และสิ่งบ่งชี้อีกอย่างหนึ่งที่ผู้ดูแลคัมภีร์โบราณทั้งสองได้ถ่ายทอดก็คือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ระหว่างชาวไทยพุทธ ฮินดู จีนและมุสลิมในท้องถิ่นนี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งนอกจากเราจะได้เห็นมัสยิด วัด ศาลเจ้า อยู่กระจายปะปนกันในพื้นที่ต่างๆ แล้ว ยังได้เห็นสัญลักษณ์อันเป็นการอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนา ไม่ว่าจะเป็นยุคอดีตหรือปัจจุบัน โดยเฉพาะการที่รัฐบาลไทยได้สนับสนุนให้สร้างพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญในความหลากหลายของกลุ่มเชื้อชาติศาสนาโดยไม่มีการแบ่งแยก

310722 mongkol6

310722 mongkol7

นอกจากนี้ ในอดีตนั้นยังมีตัวอย่างสะท้อนจากวัดถ้ำตลอด ใน ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จังหวัดปัตตานี พุทธสถานที่เชื่อกันว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุทธก่อนปีพุทธศักราช 2219 เป็นพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ผสมผสานศิลปกรรมอยุธยาและศิลปะพื้นถิ่นภาคใต้ โดยเฉพาะภายในถ้ำทวดหยัง ยังมีรูปปั้นของทวดโต๊ะหยังเศรษฐีชาวมาลายู พี่บริจาคสร้างพระพุทธรูปในวัดแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่นับถือกันของชาวไทยภาคใต้ทั้งไทยพุทธและมุสลิม

ส่วนในปัจจุบันก็มีตัวอย่างของวัฒนธรรมของหมู่บ้าน ในชุมชนสะบ้าย้อยจังหวัดสงขลา ที่มีข้อตกลงกันของชาวบ้านให้มีการหมุนเวียนกันเลือกผู้ใหญ่บ้านที่เป็นไทยพุทธและไทยมุสลิมสลับกันขึ้นมาเป็นกำนันอีกด้วย

ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลด้านประสานการมีส่วนร่วม กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้สัมผัสความงดงามที่ทรงคุณค่าของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในหลากหลายด้าน ทำให้มองเห็นเสน่ห์ของพื้นที่ รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสังคมพหุวัฒนธรรม ที่ไม่ควรจะเห็นกันอยู่เพียงประชาชนในพื้นที่ แต่ต้องทำให้คนภายนอกเห็นความงดงามเหล่านี้ด้วย ดังนั้นขอยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะส่งเสริมและสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่จะทำให้เกิดการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติปักหมุดจุดหมายการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกด้าน

เขียนโดย มงคล บางประภา

310722 mongkol8

310722 mongkol9

310722 mongkol10

310722 mongkol11

310722 mongkol12

310722 mongkol13

310722 mongkol14

310722 mongkol15

Tags: newsข่าวจังหวัดปัตตานี
Previous Post

จุดประทัดแก้บนสนั่น 'วัดเขาพระทอง' คอหวยลุ้นเลขเด็ดหางประทัดเสี่ยงดวง | เดลินิวส์

Next Post

ก.แรงงาน เทรนเยาวชนชายแดนใต้ พัฒนาทักษะช่างเชื่อมป้อนตลาดงานซาอุฯ

ปัตตานี

ปัตตานี

เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้

Related Posts

ข่าว

ม.อ.เผยผลวิจัย พบ.ผู้ป่วยปอดบวมจากโควิด เสี่ยงติดวัณโรคมากกว่าคนทั่วไป 7 เท่า

กุมภาพันธ์ 1, 2023
'สมชัย'-สงสัย-กกต.-แบ่งเขตเลือกตั้งผิด?-หลังเอาจำนวน-ผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ
ข่าว

'สมชัย' สงสัย กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งผิด? หลังเอาจำนวน ผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ

มกราคม 31, 2023
ข่าว

ผู้ว่าหญิงปัตตานี นำทีมปั่นจักรยานแนะนำแหล่งท่องเที่ยว

มกราคม 29, 2023
ข่าว

อุตุฯเตือนดูแลสุขภาพอากาศหนาวเย็นลง

มกราคม 29, 2023
“นิพนธ์”เดินหน้าทำชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร-|-เดลินิวส์
ข่าว

“นิพนธ์”เดินหน้าทำชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร | เดลินิวส์

มกราคม 26, 2023
ข่าว

‘

มกราคม 26, 2023
Next Post
ก.แรงงาน-เทรนเยาวชนชายแดนใต้-พัฒนาทักษะช่างเชื่อมป้อนตลาดงานซาอุฯ

ก.แรงงาน เทรนเยาวชนชายแดนใต้ พัฒนาทักษะช่างเชื่อมป้อนตลาดงานซาอุฯ

บทความ แนะนำ

No Content Available

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนถ่ายสินค้า การขุด หรือเจาะบ่อน้ำ การค้าวัสดุก่อสร้าง การฆ่าสัตว์ การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำมันพืช การผลิตน้ำแข็ง การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การผลิตรองเท้า การผลิตเส้นไหม การรีดโลหะ ผลิตเหล็ก การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริษัท ปัตตานี มูลนิธิ ร้านค้า วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.ปัตตานี เขต 1 สพป.ปัตตานี เขต 2 สพป.ปัตตานี เขต 3 สพม.เขต 15 สมาคม สำนักงานจัดการเดินทาง หน่วยงานราชการ อบต. อาหาร เอสเอ็มอี แฟรนไชส์ โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา ปัตตานี



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!