วันนี้ (6 มิ.ย.65) โลกโซเชียลแชร์ภาพเด็กชายตาบวม เลือดออกทางจมูก โดยมีข้อความระบุในโพสต์ว่า ถูกครูสอนศาสนา โรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่ง ในอ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซ้อมจนอาการสาหัส ไม่ยอมนำตัวส่งโรงพยาบาล แล้วบอกเด็กคนอื่น ให้จัดการกันเอง ทำให้เด็ก ๆ ที่เรียนด้วยกัน ช่วยกันโบกรถ ขอร้องชาวบ้านให้พาเพื่อนที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนปอเนาะที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ ได้พบกับคณะปลัดอำเภอ กรรมการอิสลาม และหน่วยงานอื่นๆ รวมไปถึงบาบอ (ครูสอนศาสนา) ผู้ที่ก่อเหตุ กำลังพูดคุยและหาทางออกสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามทราบว่า เรื่องทำร้ายเด็ก เป็นเรื่องจริง ครูสอนศาสนาเกิดอาการบันดาลโทสะ เป็นอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากลูกศิษย์ไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้
เบื้องต้นทางครูสอนศาสนาและนายกสมาคมสถาบันปอเนาะได้เข้าไปพบกับครอบครัวของเด็กแล้ว มีการพูดคุยสร้างความเข้าใจกัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจกันดี จากนี้จะมีการเยียวยาให้
ส่วนเด็กที่ถูกทำร้าย ทราบว่าเป็นเด็กพิเศษ อายุ 18 ปี ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี อาการล่าสุด ตายังบวมเขียว ฟันหักและบวมบริเวณที่ปาก เวลาขยับปากก็จะมีเลือดไหล เจ็บหูข้างซ้าย ไม่ได้ยิน และเจ็บที่ต้นคอ ปวดตามตัวยังไม่สามารถนั่งได้
สอบถามนางสาวสุปรีนา พี่สาวคนโต ให้สัมภาษณ์ว่า ครั้งแรกที่ครอบครัวเห็นภาพก็รู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก สำหรับเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ มีเด็กใหม่เข้ามาสอนหนังสือ แต่น้องชายของตนเองบอกว่าสอนไม่ถูก และตะคอกใส่ เด็กใหม่จึงไปฟ้องครูสอนศาสนา
จากนั้นก็โดยทำร้ายและปล่อยทิ้งไว้ ให้เด็กๆจัดการกันเอง โชคดีที่มีรุ่นพี่เข้ามาเห็นว่า น้องชายหายใจถี่ จึงช่วยกันหามออกไปหน้าปากซอยระยะทางประมาณเกือบ 1 กม. แล้วโบกรถข้างทางพาส่งโรงพยาบาล
หลังจากนี้ตนเองจะดำเนินการตามกฎหมาย และให้ทางครูสอนศาสนาเยียวยาดูแลค่ารักษาน้องชาย เพราะตอนนี้ครอบครัวลำบาก ทุกคนต้องหยุดงานมาดูแล แต่โชคดีมากที่ทางโรงพยาบาลยะหริ่ง และโรงพยาบาลปัตตานี ดูแลคนเป็นกรณีพิเศษ ตนเองรู้สึกขอบคุณทางโรงพยาบาลมากๆ